ขณะที่คาดกำไรสุทธิในปีหน้าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ เป็นไปตามการเติบโตของรายได้ และจะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นที่ 17% และอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 4% จากมูลค่าวัตถุดิบสูงขึ้น ทำให้ต้องควบคุมต้นทุนไว้เท่าเดิม อีกทั้งภายในเดือนก.พ.59 บริษัทฯเตรียมเสนอต่อบอร์ด เพื่ออนุมัติจ่ายปันผล หลังไม่ได้จ่ายมาเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิ
ทั้งนี้ ในปี 59 บริษัทวางงบลงทุนไว้ 50 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนประสิทธิภาพในเรื่องของเครื่องวัด เครื่องตรวจสอบ เป็นต้น ขณะที่จะยังคงไม่มีการลงทุนขยายกำลังการผลิต จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่สามารถรองรับได้อยู่ที่ 40,000 ตัน/ปี แต่มีการใช้งานเพียง 60% ทำให้ยังเดินเครื่องการผลิตได้อีกมาก โดยตั้งเป้าในปีหน้าจะมีกำลังการผลิตมากกว่า 70%
นอกจากนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรต่างประเทศ จำนวน 3 ราย โดยมีทั้งทวีปยุโรป อาเซียน และสหรัฐฯ เพื่อร่วมลงทุนในธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่อง และต่อยอดธุรกิจเดิม สร้างผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งเบื้องต้นบริษัทฯมีนโยบายถือหุ้นในสัดส่วนที่ไม่น้อยกว่า 51% แต่อย่างไรก็ตามยังไม่ได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ ขณะเดียวกันหากการลงทุนดังกล่าวเกิดขึ้นจริง บริษัทฯมีความพร้อมที่จะลงทุน ปัจจุบันมีหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 0.5 เท่า ทำให้ยังมีความสามารถที่จะกู้ยืมจากสถาบันทางการเงินได้อีกมาก
สำหรับปีนี้บริษัทคาดรายได้จะเติบโตได้ 8% จากปีก่อนมีรายได้ที่ 806.98 ล้านบาท และกำไรสุทธิ ทำสถิติสูงสุด หลังไตรมาส 3/58 มีกำไรอยู่ที่ 30.69 ล้านบาท เป็นผลมาจากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลง จากที่มีการล้างขาดทุนสะสมได้หมด
"ภาพใหญ่ของปี 59 ยังคงไม่มีการลงทุนขยายกำลังการผลิต จากปัจจุบันที่มีอยู่ 40,000 ตัน/ปี ซึ่งเรามีการใช้งานจริง 60% เราจึงมาเน้นกำลังการผลิตที่มีอยู่ เพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยคาดหวังปีหน้ากำลังการผลิตจะมากกว่า 70% ได้ ขณะที่ก็ตั้งเป้าหมายรายได้โต 8%"นายขวัญชัย กล่าว