นายสีทอง พรหมมะจิตร ผู้อำนวยการใหญ่ PSC ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างภายในประเทศ สปป.ลาว เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ลาว เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปขยายธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่มีอัตราการเติบโตสูงในสปป ลาว และส่วนหนึ่งจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท โดยได้แต่งตั้ง APMLAO เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อจัดโครงสร้างธุรกิจ โครงสร้างทางการเงิน และปรับปรุงมาตรฐานบัญชีให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ และวางแผนธุรกิจเพื่อเตรียมความพร้อมการเข้าระดมทุน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในอุตสาหกรรมได้อย่างแข็งแกร่ง
ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่หลายโครงการ อาทิ โครงการก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำโขงที่แขวงหลวงพระบาง มูลค่าประมาณ 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โครงการก่อสร้างถนนที่แขวงหลวงพระบาง มูลค่าประมาณ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โครงการก่อสร้างถนนเลียบชายแดนลาว-กัมพูชา ที่แขวงอัตตะปือ มูลค่าประมาณ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ในปี 2559 บริษัทจะมีโครงการก่อสร้างถนนที่แขวงหลวงพระบาง มูลค่าประมาณ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โครงการก่อสร้างระบบป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง มูลค่าประมาณ 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โครงการปรับปรุงซ่อมแซม ต่อเติมและขยาย สนามบินบ่อแก้ว มูลค่าประมาณ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
“บริษัทดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเป็นหลัก โดยมีทั้งการก่อสร้างถนนและระบบป้องกันตลิ่ง ซึ่งสัดส่วนรายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างคิดเป็นร้อยละ 80 ของรายได้ทั้งกลุ่ม นอกจากนี้ปัจจุบันบริษัทยังได้รับสัมปทานเขื่อนจากรัฐบาลอีกจำนวน 2 เขื่อนระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างเบื้องต้นคาดว่าบริษัทจะรับรู้รายได้จากเขื่อนเข้ามาในปี 2562 ขณะเดียวกันบริษัทยังมีธุรกิจสถานีบริการน้ำมันภายใต้เครื่องหมายการค้า “PLP" จำนวน 40 แห่ง ยอดขายประมาณ 4-5 ล้านลิตรต่อเดือน และยังมีธุรกิจเหมืองแร่อีกด้วย"นายสีทอง กล่าว
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ผู้อำนวยการใหญ่ PMLAO เปิดเผยว่า บริษัท พูสีหลวงพระบางก่อสร้าง และ ซ่อมแซมขัวทาง จำกัด ผู้เดียว มีศักยภาพการเติบโตสูงเนื่องจากทีมผู้บริหารเป็นคนรุ่นใหม่และมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 38 ซึ่งขณะนั้นบริหารงานโดยรุ่นพ่อจนถึงปัจจุบันรุ่นลูกได้เข้ามารับบริหารงานต่อ ระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจก็ประมาณ 20 ปี
“APMLAO จะเข้ามาช่วยในการจัดโครงสร้างทางธุรกิจ และโครงสร้างทางการเงินให้เหมาะสมเป็นไปตามหลักเกณฑ์ รวมถึงช่วยจัดหาแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมเพื่อขยายธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ และหารือในการเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งและระดมทุนได้ภายในปี 60 เพื่อสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต"นายสมภพ กล่าว