(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ในแดนบวก รับราคาน้ำมันขึ้น-LTF หนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 30, 2015 10:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มการเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ และคาดว่าส่วนใหญ่จะแกว่งตัวในแดนบวก เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ อีกทั้งยังมีเม็ดเงินของกองทุน LTF ไหลเข้ามาต่อเนื่อง

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเปิดตลาดภาคเช้าส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยราว 0.1-0.2% รับปัจจัยบวกราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้น

พร้อมให้แนวต้าน 1,287-1,290 จุด แนวรับ 1,275-1,280 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 ธ.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,720.98 จุด เพิ่มขึ้น 192.71 จุด(+1.10%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,107.94 จุด เพิ่มขึ้น 66.95 จุด(+1.33%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,078.36 จุด เพิ่มขึ้น 21.86 จุด(+1.06%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 88.60 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 2.99 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 94.97 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 19.46 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 6.72 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 6.09 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.59 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(29 ธ.ค.58) 1,283.78 จุด ลดลง 2.09 จุด(-0.16%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,561.28 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(29 ธ.ค.58) ปิดที่ 37.87 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.06 ดอลลาร์ หรือ 2.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(29 ธ.ค.58)ที่ 8.79 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดเช้า 36.09/11 คาดแกว่งแคบ 36.05-36.15 ธุรกรรมเบาบางช่วงสิ้นปี
  • คณะรัฐมนตรีอนุมัติเป้าหมายนโยบายการเงินปี 59 เงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 2.5% บวกลบ 1.5% ด้านรมว.คลังเผยแบงก์ชาติจะใช้เครื่องมือในการทำนโยบายการเงินที่มีอยู่เพื่อช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโต
  • รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบมาตรการทางด้านภาษีเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้ามาอยู่ในระบบภาษีอย่างถูกต้องด้วยการมาลงทะเบียนกับกรมสรรพากร ซึ่งกระทรวงการคลังจะออกกฎหมายขึ้นมารองรับ โดยให้สิทธิกับผู้ประกอบการที่เข้ามาลงทะเบียนภายใน 2 เดือนตั้งแต่กฎหมายมีผลบังคับใช้ จะไม่ถูกตรวจสอบภาษีย้อนหลัง โดยกำหนดให้ผู้ที่เข้ามาจดทะเบียนต้องเป็นกลุ่มที่มียอดขายต่ำกว่า 500 ล้านบาท ครอบคลุม 95% ของจำนวนผู้ประกอบการทั้งประเทศ ส่วนกลุ่มที่เป็นเอสเอ็มอีที่ทุนจดทะเบียนต่ำกว่า 5 ล้านบาท มียอดขายไม่เกิน 30 ล้านบาท หากเข้ามาลงทะเบียนจะได้รับสิทธิพิเศษ คือ ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลปีแรก ปีที่ 2 เสียแค่ 10% และในปีต่อไปเก็บตามอัตราปกติ 20%
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจภาคการเงินการธนาคารในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสาน เกิดภาวะเงินฝืดหรือมีปัญหาด้านสภาพคล่องทางการเงินมากที่สุด เห็นได้จากมียอดรวมการกู้เงินมากที่สุดเมื่อเทียบกับทุกภาค นอกจากนี้ยังมียอดการกู้มากกว่าการฝากเงินด้วย
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเตรียมปล่อยสินเชื่อใหม่โตปีละ 7% ต่อเนื่อง 5 ปี มุ่งส่งเสริมทำเกษตรยั่งยืน คาดโตถึง 5% ต่อปี ปล่อย 4 แพ็คเกจช่วยเกษตรกรรับมือภัยแล้ง ประเมินลากยาวถึงก.ค.59
  • 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ แนะจับตาหลังมาตรการอุ้มอสังหาริมทรัพย์ภาครัฐหมดเม.ย.59 หวั่นลูกค้าอาจเบี้ยวโอนสูง หลังพบสัญญาณแล้วถึง 10% เหตุซื้อเพื่อเก็งกำไร มั่นใจปีหน้าตลาดทั่วประเทศโตได้ 10% มูลค่ากว่า 5.5 แสนล้านบาท
  • สศอ.มึนดัชนี MPI พลาดเป้า ทั้งปีติดลบ 0.5 ถึงบวก 0.5% อ้างปัจจัยหลักจากประมาณการใหม่ คาดปี 2559 ขยายตัว 2-3% หลังได้อานิสงส์มาตรการรัฐ เผยอุตสาหกรรมยานยนต์ดาวเด่นปีหน้า
  • "ค้าปลีก" รับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นจับจ่าย ลดหย่อนภาษีเมื่อซื้อสินค้าและบริการไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท หลังลูกค้าแห่ซื้อสินค้าโดยเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก "เซ็นทรัล" ระบุคนเข้าห้างเพิ่ม 30-40% "บิ๊กซี" แจงลูกค้าใช้บริการเพิ่ม 10% ส่วน "โลตัส" ชี้จ่ายต่อบิลสูงขึ้น

*หุ้นเด่นวันนี้

  • LPH(บล.ดีบีเอสฯ)แนะ"ซื้อ"ให้ราคาพื้นฐาน 7.03 บาท โดยคาดกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 4/58 จะดีที่สุดในรอบปีนี้เป็น 37 ล้านบาท เพราะในช่วงไตรมาส 4 เป็นไฮซีซั่นที่มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษามาก และเริ่มเห็นผลดีจากการเปิดให้บริการศูนย์รักษาเฉพาะทาง 5 ศูนย์ คือ ตา ทางเดินอาหาร กระดูก-ข้อ สมอง และผิวหนัง จะเป็นบริการที่มี value addedสูง ค่ารักษาต่อครั้งจะมากขึ้น เช่นเดียวกับอัตรากำไรที่จะได้รับก็ดีขึ้น ขณะที่คาดการณ์กำไรสุทธิปี 59 สูงเป็น 142 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดถึง 42% จากปีนี้ โดยสมมุติฐานที่ดีขึ้นจากปี 58 คือ อัตรากำไรขั้นต้นและการประหยัดดอกเบี้ยจ่าย แม้รายได้จากการให้บริการเพิ่มเพียง 15% จากปีนี้
  • TACC (บล.ฟินันเซีย ไซรัส) โดยมีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรปี 59 ขึ้นจากเดิมจากการที่ TACC ได้สิทธิเป็น Fixed Supplier โถกดเครื่องดื่มตัวที่ 3 ในร้าน 7-11 เพิ่มขึ้นจาก 2 โถกดเดิม ทำให้บริษัทกลายเป็น Supplier หลัก 3 ใน 4 โถกดของร้าน 7-11 ทั่วประเทศ ล่าสุดได้เริ่มส่งสินค้าสำหรับโถกด 3 ไปแล้วกว่า 5,700 สาขา และคาดเพิ่มเป็น 7,000 สาขาในปี 59 ซึ่งน่าจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นปีละ 300 ล้านบาท นอกเหนือจากการเพิ่มสินค้าใหม่เครื่องกดเครื่องดื่มร้อนแบบอัตโนมัติที่ตั้งเป้ากระจายไปในร้านสะดวกซื้อให้ครบ 1,500 แห่งภายในปี 60 รายได้ปี 59 จากเดิมที่คาดว่าจะโต 17% จากปีนี้ อาจเพิ่มขึ้นเป็น 40-43% จากปีน้ ส่วนกำไรเป็นไปได้ว่าอาจโตถึง 60-70% จากปีนี้ สูงกว่าเดิมที่คาดโต 30% จากปีนี้ เพราะต้นทุนคงที่ไม่เพิ่ม หากอิง PE 30 เท่าเท่ากับกลุ่มเครื่องดื่มที่เข้ามาเทรดในตลาดในปีแรก จะได้เป้าหมายเป็น 6 บาทจากเดิมที่ 4.25 บาท
  • THAI(บล.ดีบีเอสฯ)แนะ"ถือ"ให้ราคาพื้นฐาน 9 บาท โดยมองว่าการแม้ว่าทางบริษัทพยายามที่จะปรับปรุงให้การดำเนินงานพลิกกลับมามีกำไรในปีหน้า แต่อุปสรรคคือ การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมการบิน รวมทั้งไทยต้องผ่านการตรวจสอบจาก ICAO ก่อน จึงจะมีภาพพจน์ที่ดีต่อการให้บริการการบินกับผู้เดินทาง ขณะที่ผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนนโยบายบัญชี การตีราคาสินทรัพย์มีมูลค่าเพิ่ม 8.7 พันล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 6.9 พันล้านบาท แสดงว่ามูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นเพิ่ม 3.17 บาท จาก ณ สิ้นไตรมาส 3/58 ที่ 9.22 บาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 34% อย่างไรก็ตามรายการนี้ไม่ได้บันทึกผ่านงบกำไรขาดทุน กำไรจึงไม่เพิ่มขึ้น แต่มีข้อดีอีกหนึ่งประการคือ อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ลดลง จึงทำให้ความเสี่ยงทางการเงินต่ำลงไปด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ