BEM เปิดเทรดวันแรก 5.50 บาท โบรกฯให้เป้า consensus 5.70-6.50 บาท

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 5, 2016 10:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น BEM เปิดเทรดวันแรกที่ 5.50 บาท จากบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์หลายรายที่ให้ราคาเป้าหมาย consensus ในช่วง 5.70-6.50 บาท

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯเช้านี้ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้า(BEM)ราคาพื้นฐานประเมินได้ที่ 5.70 บาท ด้วยวิธี SOTP เชื่อว่าการควบรวมกิจการจะนำมาซึ่งความแข็งแกร่งทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้น กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ยิ่งดีขึ้น รวมทั้งแนวโน้มอัตราการเติบโตกำไรที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการบริหารเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่จะเริ่มให้บริการได้ปี 2561 เพิ่มขึ้นมาอีก จากสายสีม่วงที่จะเริ่มได้ปลายปี 59 นี้

BEM เริ่มซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก โดยตลาดฯกำหนดว่าไม่มีราคาซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด ด้านการควบรวมกิจการ (Amalgamation) ระหว่าง BECL และ BMCL ได้แล้วเสร็จตั้งแต่ ธ.ค.58 และตลาดหลักทรัพย์ฯ นำ BEM เข้าคำนวณในดัชนี SET100 แทน BMCL และ BECL และในดัชนี SETHD แทน BECL สำหรับรอบครึ่งแรกปี 2559 ซึ่งจากการที่มี Market Cap ใหญ่มากในหมวดขนส่ง คาดว่าในอนาคตมีโอกาสจะเข้าคำนวณใน SET 50 ล่าสุดได้มีการแต่งตั้ง ดร. วีรพงษ์ รามางกูร เป็นประธานกรรมการบริษัท และนายปลิว ตรีวิศวเวทย์ เป็นรองประธานกรรมการ

ปัจจัยบวกหลังรวมกิจการคือ แหล่งรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 3Q59 มาจากการเริ่มให้บริการส่วนขยายทางด่วนศรีรัช-วงแหวน (SOE) และการบริหารเดินรถ MRT สายสีม่วง สำหรับจำนวนผู้ใช้ทางด่วนศรีรัชฯ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 40,000 เที่ยวต่อวันในงวดปี 59 หรือคิดเป็น 3.7% เทียบกับปี 58 ที่ 1,067.7 พันเที่ยวต่อวัน ค่าบริการต่อเที่ยวเป็น 50 บาท จึงช่วยดึงให้ค่าบริการต่อเที่ยวทั้งระบบเพิ่มเป็น 23.47 บาทจากเดิมที่ 22.43 บาท ส่วนค่าบริหารเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง คาดว่าปี 59 จะมีรายได้เพิ่ม 468 ล้านบาท อีกทั้งจะเพิ่มผู้โดยสารให้กับสายสีน้ำเงินในปัจจุบันอีก 23,000 เที่ยวต่อวันทำการ หรือประมาณ 7.9% จากจำนวนผู้โดยสารปี 58 ที่ระดับ 289.9 พันเที่ยวต่อวันทำการ

จุดเด่นคือ คาดการณ์กำไรปี 59 โตก้าวกระโดดเป็น 52% y-o-y อีกทั้งต้นทุนทางการเงินจะลดลง นั่นคือ หุ้นกู้ปี 58 และ 59 ได้มีการจ่ายคืนเป็น 3 และ 4.5 พันล้านบาท ตามลำดับ มีการเจรจาขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงเป็น 6% จากเดิมที่ 7-7.5% และเพิ่มประโยชน์ที่ได้รับจากการเกิด economies of scale ในเรื่องการให้บริการใหม่ๆที่เพิ่มขึ้นจากเดิมนั่นคือ อัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 35% ในงวดปี 59 เทียบกับเดิมที่ 31.9% ดังนั้นแม้คาดว่ารายได้ในงวดปี 59 เพิ่มขึ้นเพียง 18% แต่กำไรสุทธิกลับเพิ่มขึ้นถึง 52% สืบเนื่องจากอัตรากำไรที่กว้างขึ้นนั่นเอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ