นายณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ ของ BMN คาด่วาการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยจะทำได้อย่างเร็วภายในปี 60 หาก BEM ได้รับสิทธ์สัมปทานการเดินรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในอนาคต เช่น รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย และสายสีชมพู ซึ่งจะทำให้ BMN มีสิทธิ์เข้าไปบริหารพื้นที่ในสถานีรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ และส่งผลให้รายได้ของ BMN มีการเติบโตอย่างมากในอนาคต
"เราก็ไม่รีบร้อนเข้าตลาดมากนัก เพราะต้องดูปัจจัยต่างๆก่อน อย่างเช่น การเติบโตของรายได้ ซึ่งถ้าหาก BEM ได้สัมปทานการเดินรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นในอนาคต อย่างเช่น ส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน และสายสีชมพู ก็จะเป็นโอกาสของเราที่จะได้สิทธิ์ในการเข้าไปบริหารพื้นที่ด้วย และทำให้รายได้ของเราเติบโตอย่างมากในอนาคต ซึ่งเราอยากทำให้ธุรกิจเราแข็งแกร่งก่อนเข้าตลาด และก็ต้องดูภาวะตลาดที่มีความเหมาะสมประกอบไปด้วย แต่ราก็มองๆว่าอย่างเร็วจะเข้าตลาดได้ภายในปี 60"นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ช่วงครึ่งหลังปีนี้จะมีความชัดเจนว่า BEM จะสนใจเข้าไปรับสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพูหรือไม่ ขณะที่ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ที่ BEM ได้สิทธิ์ในการเดินรถและมีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ คาดว่าไม่เกินครึ่งแรกของปีนี้จะมีความชัดเจนสิทธิ์การบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ของรถไฟฟ้าสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อของบริษัทด้วย
สำหรับรายได้ของ BMN ในปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 10% จาก 450-470 ล้านบาทในปีก่อน ซึ่งเป็นการเติบโตในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาในสถานีรถไฟฟ้าที่คาดว่าเติบโต 10% โดยจะมาจากรายได้ค่าโฆษณาที่เพิ่มขึ้นจากการปรับเพิ่มค่าโฆษณาในบางพื้นที่ที่มีการสัญจรหนาแน่นเฉลี่ยอยู่ที่ 5-10% ต่อปี อีกทั้งบริษัทยังเพิ่มพื้นที่ค้าปลีกอีก 2 สถานีในปีนี้ ได้แก่ สถานีลาดพร้าว และสถานีศูนย์วัฒนธรรม ซี่งมีกำหนดเปิดให้บริการในไตรมาส 3/59 ทำให้สิ้นปีนี้จะมีพื้นที่ค้าปลีกในสถานีรถไฟฟ้าทั้งหมดเป็น 7 สถานี จากปีก่อนมี 5 สถานี
นอกจากนี้ในไตรมาส 3/59 บริษัทเข้าไปบริหารพื้นที่โฆษณาบนทางด่วนโครงการพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ซึ่งทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้
อนึ่ง BMN มีธุรกิจ 3 ประเภท ได้แก่ การให้เช่าพื้นที่โฆษณาในสถานีรถไฟฟ้า การบริหารพื้นที่เช่าร้านค้าปลีก และการให้เช่าพื้นที่ในสถานีรถไฟฟ้าเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่