ทั้งนี้ บริษัทถือว่ามีความพร้อมด้านการลงทุนในโครงการต่างๆ ซึ่งรัฐบาลก็อยู่ระหว่างการอนุมัติโครงการใหม่ๆเพิ่มเติม เช่น มอเตอร์เวย์ และทางด่วน อีกทั้งยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู สายสีน้ำเงิน สายสีเหลือง และสายสีแดง ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อีกทั้งบริษัทมีหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 1.3 เท่า ทำให้ยังสามารถกู้ยืมจากสถาบันทางการเงินได้อีกมาก ขณะที่มองโอกาสขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาถึงความเป็นไปได้ โดยเฉพาะในเมียนมาร์ ที่เบื้องต้นจะร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อเข้าไปรับงาน
"เป็นเรื่องที่เราคาดหวังไว้อยู่แล้วว่าให้มีการควบรวม (ระหว่าง BECL และ BMCL) และรัฐบาลก็อยากจะลงทุนมากขึ้น อีกทั้ง AEC เปิดก็ถือว่าเป็นโอกาส เราจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อม ซึ่งเชื่อว่ามีโอกาสใหม่เกิดขึ้น รายได้และกำไรสุทธิก็จะดีขึ้น โดยปี 58 รายได้จะเติบโตกว่า 10,000 ล้านบาท และคาดรายได้ปีนี้ก็จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด หรืออาจจะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก ตามโครงการใหม่ๆที่ออกมา"นายปลิว กล่าว
นายปลิว กล่าวอีกว่า บริษัทเตรียมเสนอผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายปันผล สำหรับผลประกอบการงวดปี 58 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ หลังมีการควบรวมกิจการระหว่างบมจ.ทางด่วนกรุงเทพ (BECL) และ บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) ทำให้ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง โดยจะเสนอในการประชุมผู้ถือหุ้นในช่วงเดือนเม.ย.59