การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,256.74 จุด และจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,247.89 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรินิตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีแกว่งตัวทั้งในแดนบวกและแดนลบ โดยการเคลื่อนไหวของดัชนีในเช้าวันนี้ส่วนหนึ่งยังมีผลมาจากปัจจัยลบในช่วง 2 วันที่ผ่านมา อย่างเช่น ปัจจัยเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีนที่ยังมีการชะลอตัวต่อเนื่อง ปัจจัยความขัดแย้งระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน รวมถึงปัจจัยกดดันภายในประเทศในกลุ่มหุ้นสื่อสาร เกี่ยวกับเรื่องการแข่งขันทางธุรกิจ
ปัจจัยดังกล่าวทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลงไปต่ำกว่าที่ระดับแนวรับ 1,250 จุด แต่เมื่อดัชนีลงไปต่ำกว่าระดับดังกล่าวแล้วนั้น จะเห็นว่ามีแรงซื้อกลับเข้ามา ซึ่งทางบล.ทรินิตี้ มองว่าระดับแนวรับที่ 1,240-1,250 จุด เป็นระดับที่นักลงทุนน่าจะทยอยซื้อสะสมได้แล้ว
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าที่ผ่านมามีตลาดหุ้นในบางประเทศที่เป็นบวก อย่างเช่น จีน ที่ได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวเรื่องรัฐบาลจีนจะเข้าทำการแทรกแซงตลาดหุ้นจีน และมีตลาดหุ้นในบางประเทศเป็นลบในช่วงเช้านี้
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐชาต คาดว่า ดัชนีฯจะแกว่งตัวไซด์เวย์ เนื่องจากยังไร้ปัจจัยใหม่ ทั้งนี้แนะนำนักลงทุนทยอยซื้อสะสมในช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับดัชนีฯอยู่ในระดับที่เหมาะสม และมี Valuation P/E อยูที่ 12.2 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจมากแล้ว โดยแนะนำซื้อหุ้นที่ให้ปันผลสูง อย่างเช่น หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์, หุ้นในกลุ่มการเงิน และหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น
พร้อมให้แนวรับ 1,240 จุด แนวต้าน 1,265 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 5,177.21 ล้านบาท ปิดที่ 135.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,476.00 ล้านบาท ปิดที่ 47.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,050.28 ล้านบาท ปิดที่ 3.02 บาท ลดลง 0.04 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 885.63 ล้านบาท ปิดที่ 223.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
BEM มูลค่าการซื้อขาย 857.54 ล้านบาท ปิดที่ 5.10 บาท ลดลง 0.05 บาท