TSR-W1 ปิดเทรดวันแรกที่ 4.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 52.57 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 4.30 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 4.62 บาท และราคาลงต่ำสุด 4.04 บาท
ขณะที่หุ้น TSR ปิดตลาดที่ 6.55 บาท ลดลง 0.50 บาท(-7.09%)มูลค่าซื้อขาย 24.56 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 6.80 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 6.80 บาท และราคาลงต่ำสุด 6.50 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.เธียรสุรัตน์(TSR)ใช้ชื่อย่อว่า TSR-W1 คาดว่าจะมี All-in Premium -10.24% เนื่องจากราคาหุ้นแม่ที่สูงกว่าราคาใช้สิทธิมาก (In-The-Money กว่า 252%) ทำให้เกิดผลกระทบจาก Dilution Effect 33% และด้วยการใช้สิทธิที่สามารถใช้ได้ในเดือน พ.ค. นี้เป็นต้นไปทำให้ TSR-W1 มีสภาพคล่องในการแปลงสภาพ แต่อย่างไรก็ตาม TSR-W1 มีความเสี่ยงจากสภาพคล่องในการซื้อขายของหุ้นแม่ที่ค่อนข้างต่ำเพียงวันเฉลี่ยเพียงวันละ 13 ล้านบาท
จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมในปัจจุบันด้วยวิธี BSM อ้างอิงราคาปิดหุ้นแม่ที่ 7.05 บาท (5 ม.ค.) จะได้มูลค่าที่เหมาะสมของ TSR-W1 ที่ 4.33 บาท พร้อมให้กรอบมูลค่าของ TSR-W1 ไว้ที่ 4.13-4.53 บาท เมื่อราคาหุ้น TSR เคลื่อนไหวในกรอบ 6.80-7.30 บาท โดยมี Volatility ที่ 55% per year
TSR ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องกรองน้ำ โดยใช้รูปแบบการขายทั้งผ่านสาขาและขายตรง และพร้อมที่จะดำเนินการขายเครื่องปรับอากาศยี่ห้อไดกิ้น และเฟดเดอร์ และมีแผนที่จะนำสินค้าไปวางขายในโฮมโปรและห้างค้าปลีกอื่นๆ
TSR-W1 จำนวนที่ออก 200.66 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 2 : 1 (ขึ้นเครื่องหมาย XW ในวันที่ 8 ธ.ค.58) อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 2 บาท, อายุ 3.00 ปี โดยสามารถใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน พ.ค. (ใช้สิทธิครั้งแรกในวันที่ 31 พ.ค.59 และใช้สิทธิได้ครั้งสุดท้ายในวันที่ 20 ธ.ค.62)