ส่วนด้านตลาดต่างประเทศธนาคารกลางจีนวางแผนอัดฉีดเงินมูลค่า 1.30 แสนล้านหยวน หรือ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าสู่ระบบการเงินเพื่อลดความตื่นตระหนกของนักลงทุน หลังตลาดหุ้นจีนร่วงลงแรงจนต้องใช้เซอร์กิต เบรกเกอร์เพื่อลดความผันผวนของตลาด
อย่างไรตาม ปัจจัยที่ยังคงกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง คือธนาคารกลางสหรัฐยืนยันจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในปีนี้ เมื่อพิจารณาถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การจ้างงานและเงินเฟ้อที่ปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นซึ่งส่งผลต่อFund flow การที่เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องรวมทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับลงจากภาวะอุปทานล้นตลาด
ด้านนายชัยยศ จิวางกูรผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่าปัจจัยลบความกังวลเศรษฐกิจจีนชะลอตัวหลังจากตัวเลข PMI ทั้งภาคการผลิตและบริการหดตัวลง นอกจากนี้กองทุนต่างชาติยังคงไหลออกจากมุมมองเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในปี 2559 รวมถึง Preview งบปี 2558 ของกลุ่มธนาคารที่คาดว่ากำไรจะปรับลดลง ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย
ดังนั้น คาดว่า SET ในจะปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับบริเวณ 1,230 – 1,240 จุด แนะนำกลยุทธ์การลงทุน Selective Buy ในกลุ่มที่ปัจจัยบวกสนับสนุนได้แก่กลุ่มขนส่งและโรงแรม จากการเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว แนะนำ AOT, BA,AAV, CENTEL,MINTและ ERW กลุ่มที่คาดว่างบปี 2558 และผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2558 เติบโตขึ้น แนะนำ EPG, DCC,QTC, FSMART, KCE, EA, GL, BEAUTY และ BRR และกลุ่มส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มอาหาร ซึ่งได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงในช่วงต้นสัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากการปรับลงแรงของตลาดหุ้นทั่วโลกสาเหตุจากความกังวลภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่อาจจะฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกหลังดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนธันวาคมปรับลดลงบวกกับแรงกดดันจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและคาบสมุทรเกาหลี
ขณะที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่จากดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐในเดือนธันวาคมปรับลดลงเช่นกันบวกกับรายงานการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างปรับลดลงในเดือนพฤศจิกายน 2558 ซึ่งเป็นการดิ่งลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 ส่งผลให้นักลงทุนลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและมาลงทุนในทองคำแทนเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม นายจอห์นวิลเลียมส์ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกได้ออกมาเผยว่า เฟดจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในปีนี้โดยคาดว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 หรือ 5 ครั้งขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายประเมินว่าอาจจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปี 2559โดยเฟดจะมีการประชุมครั้งแรกของปี 2559 ในวันที่ 26 ถึง 27 มกราคมนี้ ซึ่งแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดยังคงเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนในทองคำ
ดังนั้น ประเมินแนวโน้มราคาทองคำโลกด้านเทคนิค ราคาทองฟื้นตัวเป็นแท่งเทียนสัญญาณบวกผ่านยืนแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันขึ้นมายืนได้ และดึงให้เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันปรับขึ้นตามกันสร้างแรงหนุนการฟื้นตัวให้แข็งแกร่งขึ้น บวกแรงหนุนค่าสัญญาณทางเทคนิคที่ปรับขึ้นทำให้ราคามีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ อย่างไรก็ตามเนื่องจากแนวโน้มหลักยังอยู่ในแนวพักตัวเพื่อสร้างฐานราคา ซึ่งจะกดดันให้ราคาทองแนวโน้มปรับขึ้นในกรอบจำกัดโดยให้แนวรับ1,070-1,065 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,110-1,120 เหรียญต่อทรอยออนซ์