นอกจากนี้ในส่วนของการให้บริการดิจิทัลแบงก์กิ้ง ธนาคารยังตั้งเป้าเป็นอันดับหนึ่งอย่างต่อเนื่อง โดยจะเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ในส่วนของดิจิทัลแบงก์กิ้งอีก 3.4 ล้านราย รวมเป็น 11.3 ล้านราย
"Next Banking Experience เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้บริการที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าสามารถถอน จ่าย โอนเงิน ทั้งจากผู้ให้บริการที่เป็นสถาบันการเงินและไม่ใช่สถาบันการเงินให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โดยเฉพาะผู้บริโภคที่อายุระหว่าง 23-40 ปี หรือกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางถึงบนที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง"นางนพวรรณ กล่าว
นางนพวรรณ กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานสายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่ายบริการในปี 58 ธนาคารทำได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์เชิงรุกในการออกผลิตภัณฑ์และบริการใน 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.ธุรกิจดิจิทัล แบงกิ้ง ที่ยังคงเป็นผู้นำอันดับ 1 มีผู้ใช้งานมากที่สุดกว่า 9 ล้านคน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 39% 2.การออกผลิตภัณฑ์ที่เจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เช่น การออกบัตรเดบิตสโมสรฟุตบอลร่วมกับ 48 สโมสรฟุตบอลชั้นนำของประเทศไทย สามารถสร้างยอดขายบัตรได้กว่าแสนใบ 3.รายได้ค่าธรรมเนียม สามารถทำได้ประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 17% ใกล้เคียงเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยส่วนใหญ่มาจากรายได้จากแบงก์แอชชัวรันช์ และธุรกิจบัตรเครดิต และ4.ธุรกิจสินเชื่อ เติบโตประมาณ 5% ทำได้ตามเป้าหมาย ด้วยยอดสินเชื่อรวมทั้งสิ้น 3.68 แสนล้านบาท
สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสินเชื่อรายย่อยปีนี้ธนาคารคาดว่าจะทรงตัวอยู่ระดับเดียวกับปี 58 ทีระดับ 2.7-2.8% ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยเศรษฐกิจไทยในปีนี้ที่มีสัญญาณฟื้นตัวที่ดีขึ้นอย่างค่อยเป๊นค่อยไป โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ส่งผลให้ความเชื่อมั่นฟื้นตัวกลับมา ประกอบกับธนาคารระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อและควบคุมคุณภาพสินเชื่อ
ส่วนแผนงานของแต่ละส่วนของสินเชื่อรายย่อยนั้น แบ่งเป็น สินเชื่อบัตรเครดิตปีนี้ตั้งเป้าโต 7-9% จากปี 58 โต 5% สินเชื่อที่อยู่อาศัยปีนี้ตั้งเป้าโต 4-6% จากปีที่แล้วโต 4% และสินเชื่อส่วนบุคคลปีนี้ธนาคารตั้งเป้าเติบโต 10-12% จากปี 58 เติบโต 10%