อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมีมาตรการ Circuit Breaker ที่ใช้เป็นปกติอยู่แล้ว กรณีดัชนีหุ้นไทยขึ้นหรือลง 10%, 20% อยู่แล้ว ดังนั้นเชื่อว่า หากมีปัจจัยอะไรเข้ามากระทบรุนแรง มาตรการนี้น่าจะสามารถรองรับได้ ซึ่งที่ผ่านมากฎเกณฑ์เหล่านี้ได้ผ่านวิกฤติมาหลายครั้งแล้ว แต่ตลาดหุ้นไทยไม่ได้น่ากลัวเหมือนอย่างตลาดจีน เพราะเศรษฐกิจบ้านเรายังดีกว่าเศรษฐกิจจีน
ด้านนายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บล.เอเซีย พลัส คาดว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะเป็นไปทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ เพราะปัจจุบันยังไม่มีปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามา ส่วนตลาดหุ้นจีนช่วงเช้าที่ผ่านมาแกว่งตัวค่อนข้างมาก และปรับตัวในแดนบวกได้เล็กน้อยเป็นผลจากทางการจีนยกเลิก Circuit Breaker ออกไป และไม่ได้มีการปล่อยให้หยวนอ่อนค่ามากเกินไป ซึ่งในส่วนนี้เป็นแนวโน้มที่ดีว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนน่าจะยังทำได้ แต่หากปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าไปกว่านี้จะทำให้ความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนกลับมาอีกครั้ง
ในช่วงนี้แนะนำนักลงทุนไม่ควรไปมองภาพใหญ่ของดัชนีฯ แต่ให้เลือกเล่นหุ้นรายตัว ที่มีกระแสเงินสดที่แข็งแรง ราคาถูก ซึ่งปัจจุบันเป็นโอกาสของผู้ซื้อที่ควรทยอยลงทุน ไม่ใช่ลงทุนครั้งเดียวทั้งหมด พร้อมทั้งแนะนำกลุ่มสื่อสารที่เริ่มกลับมามีเสถียรภาพ และกลุ่มธนาคารที่ใกล้จะมีเสถียรภาพแล้ว ส่วนน้ำมันยังต้องรอดูสถานการณ์ราคาน้ำมันในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง