โดย GPSC จะจ่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำเพื่อการอุตสาหกรรมให้กับโรงงานผลิต HDI ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตสีเคลือบรถยนต์ ภายในม.ค.59 นี้ โดยสัญญาดังกล่าวมีอายุ 15 ปี นับจากวันที่เริ่มรับสาธารณูปโภคเชิงพาณิชย์ โดยมีปริมาณตามสัญญา ประกอบด้วย ไฟฟ้า 2.7 เมกะวัตต์(MW) ,ไอน้ำ 3 ตัน/ชั่วโมง ,ไอน้ำสำรอง 3 ตัน/ชั่วโมง และน้ำอุตสาหกรรม 1 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง รวมมูลค่าการซื้อขาย 2,134 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ในระหว่างนี้ GPSC ได้จัดส่งสาธารณูปการให้กับ HDI เพื่อใช้ทดสอบเครื่องจักรและกระบวนการผลิตไปแล้ว โดยคาดว่า HDI จะสามารถเริ่มการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนก.ค.59 นับเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นในการรองรับการเจริญเติบโตของลูกค้าและการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในอนาคตได้อย่างต่อเนื่อง
"ธุรกิจของ GPSC จะมีความได้เปรียบตรงที่ธุรกิจมีโอกาสเติบโตร่วมกับกลุ่มปตท. ซึ่งกลุ่ม ปตท.มีการขยายโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทมีความพร้อมในการขยายฐานลูกค้าทั้งไฟฟ้า ไอน้ำ รวมถึงผลิตภัณฑ์สาธารณูปโภค ให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ถือเป็นการสร้างความเติบโตของรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้น"นายเติมชัย บุนนาค กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ GPSC กล่าว
นายเติมชัย กล่าวว่า สำหรับทิศทางภาพรวมธุรกิจของบริษัทในปีนี้ เชื่อว่าจะเติบโตไปพร้อมกับกลุ่มบมจ.ปตท. (PTT) โดยในปีนี้บริษัทมีลูกค้าโครงการฟีนอล 2 เริ่มรับไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 10 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 110 ตัน/ชั่วโมง ส่งผลให้บริษัทรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นเดือนละ 100 ล้านบาท สำหรับโครงการไออาร์พีซี คลีน พาวเวอร์ (IRPC-CP) ที่ GPSC ถือหุ้น 51% นั้นจะสามารถรับรู้รายได้เต็มปีเช่นกัน หลังจากที่โครงการระยะแรกที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 45 เมกะวัตต์ ไอน้ำ 170 ตัน/ชั่วโมง เดินเครื่องผลิตแล้ว ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเดือนละ 140 ล้านบาท รวมถึงในเดือนมิ.ย.59 โครงการผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) ที่ GPSC ถือหุ้น 30% สามารถส่งไฟฟ้าได้ตามกำหนด จึงมั่นใจได้ว่าธุรกิจมีพื้นฐานแข่งแกร่ง และผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง