อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ลดลงก็เป็นโอกาสในการเข้าไปซื้อกิจการ ซึ่งล่าสุดบริษัทได้เสนอซื้อหุ้นแหล่งบงกช 22.2% จากบริติช แก๊ส ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลในช่วงครึ่งแรกปีนี้
"สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้บริษัทต้องปรับตัวเพื่อรองรับสถานการณ์ โดยโครงการที่กำลังพัฒนาก็เลื่อนออกไปตามความเหมาะสมของราคาน้ำมัน ส่วนการผลิตเราก็จะรักษาการผลิตให้ได้เท่าๆกับปีที่แล้ว ค่าใช้จ่ายก็พยายามที่จะลดลงเพิ่มเติม ตอนนี้อยู่ที่ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เราก็มอง unit cost ที่ 38 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...โครงการที่มีความเสี่ยงสูงก็จะชะลอไปก่อน มีการเจรจาเพื่อเลือนการลงทุน"นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTTEP กล่าว
นายสมพร กล่าวว่า สำหรับงบลงทุนและค่าใช้จ่ายดำเนินงานของบริษัทในปีนี้จะอยู่ที่ราว 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นรายจ่ายเพื่อลงทุนราว 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และรายจ่ายดำเนินงานราว 1.35 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่แผนลงทุน 5 ปี (ปี 59-63) ได้ปรับลดลงมาที่ราว 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จากแผนเดิมที่ราว 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนการที่นักวิเคราะห์จากบริษัท Morgan Stanley คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบมีโอกาสจะปรับตัวลดลงไปอยู่ระดับราว 20-25 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลนั้น ในส่วนของการผลิตของ PTTEP เชื่อว่าจะยังสามารถดำเนินการได้ เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตปิโตรเลียมในส่วนของเงินสดที่ใช้ดำเนินงานจริง(cash cost) อยู่ในระดับ 17-18 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลงจากเดิมที่อยู่ราว 20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ดังนั้น ทำให้ขณะนี้บริษัทยังคงผลิตปิโตรเลียมจากทุกแหล่งในระดับปกติ แต่หากระดับราคาน้ำมันปรับลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 18 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลก็จะทำให้ไม่คุ้มค่าต่อการผลิต
สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทคาดว่าปริมาณการขายปิโตรเลียมในปีนี้จะเท่ากับปีที่แล้ว แต่ในส่วนของราคาผลิตภัณฑ์จะต่ำลงจากปีที่แล้ว ตามทิศทางของราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ลดลง ขณะที่ราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้ต้องเลื่อนการพัฒนาโครงการต่างๆ เช่น โครงการออยล์แซนด์ในแคนาดา, แหล่งก๊าซธรรมชาติในออสเตรเลีย และแหล่งก๊าซฯ M3 ในเมียนมาร์
รวมถึงยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ต้องเลื่อนการสรุปแผนลงทุนแหล่งก๊าซฯในโมซัมบิก ออกไปเป็นปลายปี 59 จากเดิมที่จะสรุปในปลายปี 58 เนืองจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าลงทุนถึง 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ขนาด 12 ล้านตัน/ปี ทำให้ต้องใช้เวลาเจรจาสัญญากับหลายฝ่ายทั้งในส่วนของรัฐบาลโมซัมบิก แบงก์ผู้ให้กู้ ผู้ซื้อก๊าซฯ
อย่างไรก็ตาม การที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง ทำให้เป็นโอกาสที่บริษัทจะเข้าซื้อแหล่งปิโตรเลียมเพิ่มเติม หลังล่าสุดทางบริติช แก๊ส ได้เสนอขายหุ้น 22.2% ในแหล่งบงกช และบริษัทได้ยื่นข้อเสนอเพื่อซื้อหุ้นดังกล่าวไปแล้ว และคาดว่าจะรู้ผลภายในครึ่งแรกปีนี้ โดยหากสามารถซื้อหุ้นดังกล่าวได้ก็จะทำให้ PTTEP ถือหุ้นในแหล่งบงกช เพิ่มเป็นราว 66.6% จากปัจจุบันที่ถือหุ้นอยู่ 44.4%
"เรื่องซื้อหุ้นคืนไม่ได้มีการพิจารณา แต่ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ ก็ทำให้มีโอกาสขยายการลงทุนจากกระแสเงินสดดีๆที่เราเก็บไว้ ตอนนี้มีประมาณ 1 แสนล้านบาท"นายสมพร กล่าว