ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 1.55% ต่อปี (ประมาณการค่าใช้จ่ายของกองทุนที่ 0.13%ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ) และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป
กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 3M5 (KFFIX3M5) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก โดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน
ทั้งนี้ จากรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา มีการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี บ่งชี้ว่าคณะกรรมการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเนื่องจากมองว่าความเสี่ยงในตลาดโลกลดลงถึงแม้ความเสี่ยงยังคงมีอยู่ก็ตาม โดยคณะกรรมการจะติดตามอัตราเงินเฟ้อทั้งตัวเลขจริงและตัวเลขที่คาดการณ์ เพื่อพิจารณาประกอบการตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ด้านอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้นของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.00 – 0.07% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวลดลง 0.07–0.15% โดยที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะกลางลดลงมากกว่า
สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้ในประเทศนั้น มีแนวโน้มทรงตัวโดยปัจจัยหลักมาจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาอัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง 0.85% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและลดลง 0.39% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงมากกว่าที่ตลาดคาด โดยเป็นผลจากราคาน้ำมันลดลงและราคาอาหารอยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาด ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือนก่อนหน้า ส่วนความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน สู่ระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนที่ 76.1 ในเดือน ธ.ค.จาก 74.6 ในเดือนก่อนหน้า
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะสั้นส่วนใหญ่ทรงตัว ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุมากกว่า 1 ปี เพิ่มขึ้น 0.02–0.15% โดยที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะยาวปรับตัวขึ้นมากกว่า