นอกจากนี้ บริษัทจะเดินหน้าขยายตลาดในเมียนมาร์ ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตของงานก่อสร้างค่อนข้างสูง โดยคาดว่าภายหลังการเลือกตั้งการลงทุนในโครงการต่างๆจะเริ่มเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทจะมุ่งเน้นหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือ พร้อมแนะนำธุรกิจและบริการของ PPS ให้เป็นที่รู้จักของผู้ประกอบการในภาคธุรกิจต่างๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้ารับงานในอนาคต
"ในปีนี้เราคงเน้นขยายลูกค้าใหม่ไปที่ตลาด AEC เป็นหลัก เนื่องจากมีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นจำนวนมาก ผู้ประกอบการมีความพร้อมในการลงทุน ตามเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวสูง ขณะที่ในประเทศเองก็มีสัญญาณที่ดีขึ้น มีลูกค้ารายใหม่ติดต่อเข้ามาตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยเป็นผลจากการนำเสนองานในปีที่ผ่านมา และเริ่มมีกระแสตอบรับ"นายธัช กล่าว
นายธัช กล่าวว่า บริษัทยังคงเข้าเสนองานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นโครงการในภาคธุรกิจท่องเที่ยวมากขึ้น ส่วนงานภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกบริษัทได้รับงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมืออยู่ที่ 300 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ถึง 62 และบริษัทมีนโยบายรักษาระดับงานในมือไม่ให้ต่ำกว่านี้เพื่อให้เกิดการรับรู้รายได้ที่สม่ำเสมอ
ส่วนงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่บริษัทมีโอกาสเข้าไปรับงาน มั่นใจว่าโครงการจะต้องเริ่มกระบวนการคัดเลือกและสรุปผลภายในปี 59 อย่างแน่นอน ตามนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนของประเทศ
ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพโปรแกรม Project Live ที่ใช้ Google Platform ในการอัพเดทการทำงานผ่านโปรแกรมนี้ โดยลูกค้าและบริษัทจะได้รายงานและเช็คความคืบหน้าของงานได้ตลอดเวลา รวมถึงการจัดอบรมบุคลากรให้มีคุณภาพ และมีความสามารถในการทำงานมากขึ้น และยังมีรายได้จากการที่องค์กรอื่นๆที่มาติดต่อให้บริษัทไปจัดอบรมนอกสถานที่ให้ด้วย ทั้งนี้หน่วยงานฝึกอบรมของ PPS ถือเป็นหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากสภาวิศวกรอีกด้วย