ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนในหุ้นระยะยาว ทำให้ได้ราคาต้นทุนที่ต่ำลง ดังนั้น บลจ.ไทยพาณิชย์ จึงแนะนำให้ทยอยเข้าซื้อกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นเพิ่มเติม เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว พร้อมทั้งการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
นอกจากนี้ ยังเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) จำนวน 2 กองทุน สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 - วันที่ 31 ธันวาคม 2558 ประกอบด้วย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 (SCBLT1) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต (SCBLTT) จ่ายปันผล รวมมูลค่าประมาณ 208.89 ล้านบาท โดยจะจ่ายเงินให้กับผู้ถือหน่วยในวันที่ 21 มกราคม 2559
โดยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 (SCBLT1) จ่ายปันผลในอัตรา 0.10 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นการจ่ายเป็นครั้งที่ 17 ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลแล้วเป็นจำนวน 3.6150 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จัดตั้งกองทุน 21 ตุลาคม 2547) โดยเน้นการลงทุนหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีนโยบายหรือมีการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉลี่ยในปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม และไม่เกินร้อยละ 70 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนรวม ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้ และอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยง
และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต (SCBLTT)จ่ายปันผลในอัตรา 0.10 บาทต่อหน่วย เป็นครั้งที่ 10 โดยที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลแล้วเป็นจำนวน 2.5000 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่การจัดตั้งกองทุน 27 มิถุนายน 2550) เน้นการลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีพื้นฐานดี มั่นคง และ/หรือมีแนวโน้มเจริญเติบโตสูงไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม และอาจมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารพอร์ต และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง