"ปีนี้จะเป็นปีที่ที่ดีของบริษัท หลังจากปีก่อนไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเริ่มเห็นสัญญาณลูกค้าเข้ามาติดต่อบริษัทเพื่อรับงานมากขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตของงานภาครัฐและเอกชนที่จะมีการลงทุน ซึ่งต้นปีบริษัทได้งานใหม่ของเอกชนมูลค่า 10 ล้านบาท โดยจะรับรู้ภายในปีนี้"นายธัช กล่าว
นายธัช กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทได้เริ่มเข้าไปรับงานวิศวกรที่ปรึกษาโครงการในประเทศกลุ่ม AEC เพิ่มขึ้น และงานออกแบบในประเทศกัมพูชา ซึ่งจะมีการเสนองานวิศวกรที่ปรึกษาโครงการต่อจากงานออกแบบด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ บริษัทจะเดินหน้าขยายตลาดในเมียนมาร์ ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตของงานก่อสร้างค่อนข้างสูง โดยคาดว่าภายหลังการเลือกตั้งการลงทุนในโครงการต่างๆจะเริ่มเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับสัดส่วนรายได้ปีนี้จะมาจากต่างประเทศมากกว่า 10% เพิ่มขึ้นจากปี 58 ที่มีสัดส่วน 5% และที่เหลือจะเป็นรายได้ในประเทศ โดยสัดส่วนรายได้ในประเทศปีนี้คาดว่าจะมาจากภาครัฐมากกว่า 10% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 10% หากปีนี้รัฐบาลมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้บริษัทจะมุ่งเน้นหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือ พร้อมแนะนำธุรกิจและบริการของ PPS ให้เป็นที่รู้จักของผู้ประกอบการในภาคธุรกิจต่างๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้ารับงานในอนาคต และหาโอกาสทำธุรกิจใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจก่อสร้าง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเจรจาอยู่หลายราย แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
“พันธมิตรที่คุยนั้นจะต้องสามารถแนะนำธุรกิจและบริการของ PPS ให้เป็นที่รู้จักของผู้ประกอบการในภาคธุรกิจต่างๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับงานในอนาคต และงานที่รับจะมีความหลากหลายมากขึ้นจากเดิมที่งานส่วนใหญ่จะอยู่ในธุรกิจคอนโดมิเนียม ค้าปลีก และปีนี้บริษัทจะเริ่มเสนอขายในภาคธุรกิจโรงแรม"นายธัช กล่าว
นายธัช กล่าวว่า บริษัทยังคงเข้าเสนองานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นโครงการในภาคธุรกิจท่องเที่ยวมากขึ้น ส่วนงานภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกบริษัทได้รับงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมืออยู่ที่ 300 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ถึง 62 และบริษัทมีนโยบายรักษาระดับงานในมือไม่ให้ต่ำกว่านี้เพื่อให้เกิดการรับรู้รายได้ที่สม่ำเสมอ
ส่วนงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่บริษัทมีโอกาสเข้าไปรับงาน มั่นใจว่าโครงการจะต้องเริ่มกระบวนการคัดเลือกและสรุปผลภายในปี 59 อย่างแน่นอน ตามนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนของประเทศ
ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพโปรแกรม Project Live ที่ใช้ Google Platform ในการอัพเดทการทำงานผ่านโปรแกรมนี้ โดยลูกค้าและบริษัทจะได้รายงานและเช็คความคืบหน้าของงานได้ตลอดเวลา รวมถึงการจัดอบรมบุคลากรให้มีคุณภาพ และมีความสามารถในการทำงานมากขึ้น และยังมีรายได้จากการที่องค์กรอื่นๆที่มาติดต่อให้บริษัทไปจัดอบรมนอกสถานที่ให้ด้วย ทั้งนี้หน่วยงานฝึกอบรมของ PPS ถือเป็นหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากสภาวิศวกรอีกด้วย
ส่วนแผนการปรับโครงสร้างเป็น Holding Company นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการแต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะเสร็จเมื่อใด เพราะบริษัทย่อยขณะนี้มี 2 บริษัทที่ยังไม่สร้างรายได้ให้กับบริษัท เนื่องจากอยู่ระหว่างการหาลูกค้า