ส่วนหุ้น CENTEL บวก 1.21% มาอยู่ที่ 41.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 41.43 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 41 บาท ระหว่างวันราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ 42 บาท และต่ำสุดที่ 41 บาท
บล.ซีไอเอ็มบี ระบุในบทวิเคราะห์ โดยแนะนำ ซื้อบมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL)ให้ราคาเป้าหมาย 46.50 บาท โดยมีปัจจัยหนุนจากข่าวเช้านี้ที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ระหว่างทบทวนมาตรการภาษีส่งเสริมเที่ยวทั่วไทย ที่ให้นำใบกำกับภาษีค่าซื้อแพ็กเกจทัวร์ หรือค่าที่พักโรงแรมจากการท่องเที่ยวในประเทศไทย มาใช้เป็นค่าลดหย่อนเพื่อคำนวณภาษีได้ 1.5 หมื่นบาทต่อปี ที่ครบกำหนดไปวันที่ 31 ธ.ค.58 นั้น เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่เร็วๆ นี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ โดยจะพิจารณาขยายวงเงินหักลดหย่อนเพิ่มขึ้นอีก เพราะวงเงินเดิมยังไม่มากพอ และระยะเวลาการออกมาตรการที่เหมาะสม
ทั้งนี้ มีความชื่นชอบหุ้น CENTEL มากกว่าบมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) เพราะเชื่อว่า CENTEL จะได้ประโยชน์โดยตรงจากสถิตินักท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งของไทยมากกว่า และแม้จะเชื่อว่าธุรกิจอาหารของทั้งสองบริษัทจะคงยังอ่อนตัว แต่ CENTEL มีปัจจัยช่วยลดผลกระทบจากต้นทุนอาหารที่ลดลง นอกจากนี้ยังเชื่อว่าการเพิ่มยอดขายสาขาเดิมของธุรกิจอาหารในสิงคโปร์และจีนของ MINT ทำได้ยากกว่าการแก้ปัญหาการเติบโตของยอดขายเฉลี่ยต่อสาขาต่อวันของร้านเดิม (SSSG) ที่อ่อนตัวของธุรกิจอาหารในไทยของ CENTEL
ขณะที่คาดว่า CENTEL จะรายงานกำไรปกติ 507 ล้านบาทในไตรมาส 4/58 เพิ่มขึ้น 6% จากงวดปีก่อน และ 73% จากไตรมาสก่อน และประมาณการกำไรปกติทั้งปีอยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% จากงวดปีก่อน และคาดว่า CENTEL จะมีกำไรเติบโต 16% ในปีนี้และ 19% ในปีหน้า ซึ่งยังเป็นระดับที่ดี
บล.ทรีนีตี้ ระบุว่าสำหรับมาตรการลดหย่อนภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจ มองประเด็นข่าวดังกล่าวน่าจะส่งผลบวกระยะสั้นในเชิง Sentiment ต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวทั้งโรงแรมและสายการบิน เช่น ERW, CENTEL, MINT, AAV, NOK, THAI