ทั้งนี้ บริษัท ปิยะชาติ จำกัด เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 250 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ ได้ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการนวนคร เลคไซค์ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร พื้นที่ในโครงการรวม 19,853 ตารางวา (49-2-53 ไร่) โดยรูปแบบการพัฒนาเป็นชุมชนพักอาศัย ประกอบไปด้วย อาคารพาณิชย์ ทาวน์เฮาส์ หอพักต่างๆ เป็นต้น มีมูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันที่ดินยังมีเหลืออยู่อีกประมาณ 705 ตารางวา (1-3-05 ไร่) ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของ บริษัท ปิยะชาติ จำกัด จำนวน 38 แปลง ส่วนอีกโครงการ เป็นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนที่ดินสิทธิการเช่าของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณริมถนนรัชดาภิเษก มูลค่าโครงการประมาณ 300 ล้านบาท
ต่อมา บริษัทได้เข้าซื้อหุ้น 100% ในบริษัท เลอ อันดามัน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งมีที่ดิน ขนาดเนื้อที่รวม 3 ไร่ 2 งาน 41.9 ตารางวา ตั้งอยู่บนถนนสายเพ-แหลมแม่พิมพ์ ตำบลซากพง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง สำหรับพัฒนาเป็นโครงการอาคารชุดพักอาศัย 3 ชั้น และ 17 ชั้น โครงการนี้ได้ผ่านการเห็นชอบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีมูลค่าโครงการตามประมาณการกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งที่ดินดังกล่าวอยู่ในทำเลที่ตั้งซึ่งมีศักยภาพมาก เนื่องจากมีชายหาดส่วนตัวและอยู่ในแหล่งชุมชนเหมาะแก่การทำธุรกิจเพื่อการพักอาศัยและพักตากอากาศ
"แม้ว่าจะมีการประเมินว่า ภาวะเศรษฐกิจในปีนี้ รวมทั้งภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะมีความผันผวน แต่เราก็มั่นใจว่า ผลการดำเนินงานและโครงการภายใต้การบริหารของ บริษัท ปิยะชาติ จำกัด ณ วันนี้ เติบโตอย่างมั่นคงและมีความพร้อมที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ แล้ว อีกทั้งช่วงเวลาที่จะยื่นข้อมูลต่อ ก.ล.ต. จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งสำนักวิจัยหลายแห่งต่างก็ประเมินว่า จะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ รวมถึงการผลักดันการลงทุนในโครการขนาดใหญ่ของรัฐ ก็จะเกิดขึ้นพร้อมกันด้วย"นางปิยะนุช กล่าว
นางปิยะนุช กล่าวว่า หลังจากนี้ บล.เออีซี ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน จะพิจารณาความเหมาะสม ทั้งจำนวนหุ้นที่จะเสนอขาย รวมทั้งช่วงเวลาที่จะเสนอขายต่อไป อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ TWZ ถือหุ้นปิยะชาติ 100% ซึ่งแน่นอนว่า จะต้องนำหุ้นเดิมบางส่วนออกมากระจายให้กับนักลงทุน และอาจจะมีหุ้นเพิ่มทุนใหม่บางส่วน โดยจะมีการพิจารณารายละเอียดเหล่านี้อย่างรอบคอบอีกครั้ง เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้น แต่ในเบื้องต้นนั้น มีแนวคิดที่จะจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของ TWZ ได้ใช้สิทธิ์ก่อน เพื่อตอบแทนความไว้วางใจที่มีให้กับบริษัทมาโดยตลอด ทั้งนี้ เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า การนำปิยะชาติเข้าจดทะเบียนใน mai จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับ TWZ ได้ในระยะยาว
ในส่วนของปิยะชาตินั้น หลังจากนี้รูปแบบการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเน้นโครงการที่เป็น “บูติค เรสซิเด้นท์" มากขึ้น โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นกลุ่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ มีความเป็น Unique ต้องการใช้ชีวิตเรียบง่าย แต่สะดวกสบายในวันพักผ่อนอย่างแท้จริง ซึ่งอาจจะไม่ใช่กลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป ดังนั้น พื้นที่เป้าหมายที่เป็นยุทธศาสตร์ในขณะนี้จะเป็นเมืองพักผ่อน อย่างเช่น เขาใหญ่ หรือจังหวัดใหญ่ๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ