(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวน์ตามตลาดตปท.หลังปัจจัยนอกปท.เริ่มคลี่คลาย

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 15, 2016 09:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวน์ได้ตามตลาดต่างประเทศ แต่การปรับตัวขึ้นก็เป็นไปในกรอบแคบ เนื่องจากสัญญาณจากต่างประเทศค่อนข้างดี โดยตลาดสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์บวกไปกว่า 200 จุด เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก เนื่องจากปัจจัยจากต่างประเทศเริ่มคลี่คลาย

ขณะที่ราคาน้ำมันที่รีบาวน์ขึ้นเมื่อวานนี้ แต่เช้านี้ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลงอีกแล้ว ทำให้มองว่าทิศทางราคาน้ำมันยังเป็นขาลงอยู่ ขณะที่หุ้นในกลุ่ม ICT ก็ยังมีแรงกดดันจากการแข่งขันที่สูงขึ้น ดังนั้น ดัชนีฯน่าจะแกว่งตัวในกรอบที่แคบลง เพราะยังไม่เห็นปัจจัยพื้นฐานฟื้นตัวอย่างชัดเจน การรีบาวน์จึงเป็นแค่ช่วงสั้นเท่านั้น และทิศทางตลาดฯยังคงผันผวนอยู่

พร้อมให้แนวรับ 1,250 จุด ส่วนแนวต้าน 1,270 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(14 ม.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,379.05 จุด พุ่งขึ้น 227.64 จุด(+1.41%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,615.00 จุด เพิ่มขึ้น 88.94 จุด(+1.97%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,921.84 จุด เพิ่มขึ้น 31.56 จุด(+1.67%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 281.51 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 19.60 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 35.95 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 66.12 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 15.82 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 12.30 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.59 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(14 ม.ค.59) 1,263.29 จุด ลดลง 15.32 จุด(-1.20%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 687.39 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 ม.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(14 ม.ค.59) ปิดที่ 31.20ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 2.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(14 ม.ค.59)ที่ 10.39 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 36.30/32 แกว่งแคบขาดปัจจัยใหม่หนุน รอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ
  • พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา ว่า ที่ประชุมเห็นชอบที่จะรับซื้อแผ่นยางดิบในราคากิโลกรัมละ 45 บาท ใช้เงิน 4,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรพอใจ ส่วนน้ำยางสดและยางก้นถ้วยจะซื้อในราคาลดหลั่นลงไป โดยปริมาณการรับซื้อเบื้องต้นในระยะ 3 เดือนจะตก 1 แสนตัน และผลของมาตรการนี้ทำให้ยางราคาขึ้นไปแล้วกิโลกรัมละ 2 บาทเศษ
  • นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า มติการประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต.เมื่อเดือน ธ.ค. ได้มอบหมายทางสำนักงานไปศึกษาเพื่อทบทวนเกณฑ์ใหม่ เรื่องการกระทำความผิดของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในกรณีที่ใช้ช้อมูลไม่เป็นธรรมให้มีความเข้มข้นมากขึ้น เช่น การใช้ข้อมูลภายใน (อินไซเดอร์) ในการซื้อขายหุ้นและการสร้างราคาหุ้น
  • แบงก์ชาติเผยตลอดทั้งปี 58 มีการใช้เช็คหมุนเวียนในระบบทั้งสิ้น 71.04 ล้านฉบับ คิดเป็นมูลค่า 37.44 ล้านล้านบาท ปริมาณและมูลค่าลดลงจากปีก่อน ซึ่งข้อมูลในเดือน ธ.ค. 58 ปริมาณและมูลค่าหดตัวเช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นเช็คช่วงมูลค่า 50-100 ล้านบาท ข่าวดีทุกพื้นที่สถานการณ์เช็คคืนรวมและเช็คเด้งดีขึ้น
  • นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า การเก็บภาษีน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นจาก 4.25 บาท/ลิตร เป็น 4.95 บาท/ลิตร หรือเพิ่มขึ้น 70 สตางค์/ลิตร ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่ก่อนสิ้นปี 2558 ผลจากการขึ้นภาษีดังกล่าว จะทำให้ปีงบประมาณ 2559 กรมสรรพสามิตจะจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น 1.5 หมื่นล้านบาท ทำให้ภาพรวมการเก็บรายได้ของกรมดีขึ้น และคาดว่าทั้งปีงบประมาณจะจัดเก็บได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4.96 แสนล้านบาท
  • สคร.ชง คนร.เห็นชอบกฎหมายกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ 18 ม.ค.นี้ ย้ำไม่ใช่กฎหมายแปรรูป ส่วนคมนาคมเสนอคนร.อนุมัติเพิ่มวงเงินสัญญา 3 สายสีแดง พร้อมลุ้น คตร.ล้มหรือไม่ล้มประมูลซื้อขบวนแอร์พอร์ตลิงก์วันนี้

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SVI(ยูโอบี เคย์เฮียน)งบ Q4 จะเข้าสู่ช่วงพีค ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ทำให้ส่งออกง่ายขึ้นและไม่ส่งออกไปจีน ทำให้ผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวมีค่อนข้างน้อยต่อ SVI ส่วนปีนี้จะเดินเครื่องผลิตได้เต็มที่เหมือนก่อนช่วงไฟไหม้ ประกอบกับ demand จากยุโรปยังแข็งแกร่งอยู่และปีหน้าจะได้ลูกค้าใหม่จากอเมริกามา 6 ราย เป็นรายได้เสริมถึง 1,200 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรมีโอกาสจะโตถึง 32%ในปีหน้า แถม PE ของSVI ปัจจุบัน 11.6 เท่า ถูกกว่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 12.6 เท่าด้วย
  • QTC(โกลเบล็ก)เป้า 7 บาท คาดกำไรปี 58 +80%YoY เป็น 99 ล้านบาท โดยช่วง 2H58 เป็น High season ของบริษัทและมี Backlog ราว 460 ล้านบาท และปี 59 คาดกำไร 116 ล้านบาท (+17% YoY) เนื่องจากได้ประโยชน์จากการเปิดประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานต่างๆหนุนต่อ Demand หม้อแปลงไฟฟ้าของบริษัท อีกทั้งปี 59 เน้นขยายฐานลูกค้าตลาดใน-นอกประเทศหนุนผลประกอบการเติบโตต่อเนือง
  • กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี(ซีไอเอ็มบี)"ซื้อเก็งกำไรระยะสั้น" อย่าง PTT PTTEP PTTGC TOP BCP IRPC IVL SPRC SGP ซึ่งคาดว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาในวันนี้จากปัจจัยบวกเมื่อคืนนี้ที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 0.72 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ +2.36% มาปิดที่ 31.2 ดอลลาร์/บาร์เรล เป็นการปิดบวกวันที่ 2 ติดต่อกันหลังลดลงมา 7 วันติด โดย EIA เปิดเผยตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเพียง 234,000 บาร์เรล สู่ระดับ 482.6 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรลและหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบ WTI สามารถยืนเหนือระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรลได้ ทำให้มีการ sht cvei กลับ โดยให้ PTTGC เป็น top pick ของการฟื้นตัวในรอบนี้ เนื่องจากยังมี upsie สูงถึง 29% จากราคาเป้าหมาย 62.50 บาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ