ส่วนความกังวลในเรื่องภาวะเศรษฐกิจจีนนั้น เชื่อว่าไม่กระทบ เนื่องจากในส่วนธนาคารมีมาตรการในการดูแลลูกค้าอยู่แล้ว
"ธนาคารฯปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีของไทยปี 59 เป็น 3.5-4% จากเดิมคาด 3-3.5% เนื่องจากทางรัฐบาลได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตรการระยะสั้น กลาง และระยะยาว โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานหรือเมกะโปรเจ็กต์ต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้ความเชื่อมั่นกลับฟื้นคืนมา และส่งผลให้เอกชนกล้าลงทุนมากขึ้น"นายชาติศิริ กล่าว
ทั้งนี้สินเชื่อของธนาคาร ปีนี้ได้ปรับเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 3-5% จากเดิมคาดการณ์ไว้ 3-3.5% ซึ่งธนาคารมองว่าจะได้รับประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เนื่องจากธนาคารมีลูกค้าสินเชื่อขนาดใหญ่ที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการโครงสร้างขนาดใหญ่
"ผมคิดว่ารัฐบาลก็กำลังทำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีการขยับขยายต่อไปให้ได้อย่างดี ทั้งมาตรการระยะสั้น ที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น และระยะกลาง ระยะยาว ที่จะให้เรามีโครงสร้างใหม่ ต่อยอดไปถึงอนาคต 3-5 ปีข้างหน้า"นายชาติศิริ กล่าว
นอกจากนี้ ธนาคารได้ประเมินเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและธนาคารอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเชื่อว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวขึ้นจากมาตรการต่าง ๆที่รัฐบาลจีนออกมากระตุ้นต่อเนื่อง
"เศรษฐกิจจีนเริ่มปรับตัวดีขึ้น และเชื่อว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง รวมถึงการมีเสถียรภาพต่างๆ เป็นไปตามแนวทางที่ทางการของจีนได้วางไว้ ขณะที่ความผันผวนช่วงนี้ก็อาจจะมีบ้าง ซึ่งมาตรการต่างๆของทางการก็มีการรองรับไว้อย่างดี"นายชาติศิริ กล่าว
สำหรับภาพของการลงทุนในไทยปีนี้ของจีน ก็เริ่มเห็นการลงทุนของบริษัทจีนที่ขยายไปยังภูมิภาค และไทยมากขึ้น เพื่อขยายการผลิต และทำธุรกิจอื่นๆเพิ่มเติม โดยทางธนาคารก็ได้ให้ความสนับสนุน ทั้งลูกค้าที่อยู่ในประเทศจีน และลูกค้าที่อยู่ในไทย รวมถึงลูกค้าที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียด้วย