กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นร้อยละ 51.7 เป็นจำนวน 5,106.8 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีการควบคุมที่ดี ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงร้อยละ 0.2 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 63.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.4 เป็นจำนวน 1,052.5 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2557 สาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้อื่นและการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน สุทธิกับการเพิ่มขึ้นในสำรองหนี้สงสัยจะสูญร้อยละ 77.0 เป็นผลเนื่องมาจากสำรองหนี้สงสัยจะสูญของลูกค้าภาคธุรกิจและนโยบายการตั้งสำรองอย่างระมัดระวัง
เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 และ 2557 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 588.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.5 เป็นผลจากการขยายสินเชื่อ (แต่หากไม่รวมผลจากการไถ่ถอนตราสารหนี้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนก่อนกำหนดแล้วรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจะเพิ่มขึ้นจำนวน 678.3 ล้านบาทหรือร้อยละ 8.7) รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 128.8 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.6 ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมจากการให้บริการสินเชื่อและค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุน สำหรับรายได้จากการดำเนินงานอื่นเพิ่มขึ้น 1,010.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 79.0 ส่วนใหญ่เกิดจากธุรกรรมบริหารเงิน
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ลดลงจำนวน 12.7 ล้านบาทหรือร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับปี 2557 สาเหตุมาจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นสุทธิกับการเพิ่มขึ้นของค่าตอบแทนกรรมการ ค่าภาษีอากร ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคารสถานที่ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้จากการดำเนินงานสำหรับปี 2558 อยู่ที่ร้อยละ 58.3 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2557 อยู่ที่ร้อยละ 68.0 เป็นผลจากแผนการบริหารจัดการเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีผนวกกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น
อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin – NIM) อยู่ที่ร้อยละ 3.27 สำหรับปี 2558 ในขณะที่ปี 2557 อยู่ที่ร้อยละ 3.37 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำ
วันที่ 31 ธันวาคม 2558 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชี (รวมเงินให้สินเชื่อซึ่งค้ำประกันโดยธนาคารอื่นและเงินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงิน) ของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 1.99 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 กลุ่มธนาคารมีเงินฝาก (รวมตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางประเภท) จำนวน 2.184 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 จากสิ้นปี 2557 ซึ่งมีจำนวน 2.117 แสนล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (the Modified Loan to Deposit Ratio) ของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 91.2 จากร้อยละ 90.1 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 6.4 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น (NPL ratio) อยู่ที่ร้อยละ 3.1 ลดลงเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 อยู่ที่ร้อยละ 3.3 มีสาเหตุหลักจากการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพในไตรมาส 4/2558 ประกอบกับธนาคารมีมาตรการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ และการแก้ปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับปรุงแนวทางในการเรียกเก็บหนี้จากสินเชื่อด้อยคุณภาพที่มีอยู่
อัตราส่วนเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 อยู่ที่ร้อยละ 106.5 เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 95.2 ตามนโยบายการตั้งสำรองอย่างระมัดระวัง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 เงินสำรองของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่จำนวน 6.7 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 2.6 พันล้านบาท
เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 มีจำนวน 3.55 หมื่นล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงร้อยละ 15.7 โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ร้อยละ 11.0