นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกที่ยังกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจไทยส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบมาถึงความมั่นใจและการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยยังชะลอตัวอยู่บ้าง และปัจจัยต่างๆที่ค่อนข้างอ่อนไหวนั้นคาดว่าจะส่งผลให้แนวโน้มของภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยในปีนี้ทรงตัวจากปีก่อน
“ปีนี้ความผันผวนมันเยอะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ความไม่แน่นอนในเรื่องเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่น ความต้องการและการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคจะกลับมาดีขึ้นจริงหรือไม่ ทำให้ปีนี้เราตั้งเป้ายอดขายเท่ากับปีก่อน ก็เป็นยอดขายที่มองว่าสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เราประเมินไว้"นายสมเชาว์ กล่าว
นายสมเชาว์ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทวางแผนเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 3 พันล้านบาท เป็นโครงการแนวราบในปริมณฑลทั้งหมด ซึ่งจะมีโครงการที่เป็นโครงการต่อขยายจากโครงการเดิม 2 โครงการ และโครงการบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ชื่อว่า “ฌาม" สนามกอล์ฟธัญญะ-วงแหวนลำลูกกา ติดรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม จำนวน 200 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1.2 พันล้านบาท โดยการเปิดโครงการในปีนี้ถือว่ามากกว่าปีก่อนที่เปิดเพียง 1 โครงการ มูลค่า 600-700 ล้านบาท
ส่วนรายได้ในปี 59 บริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 2 พันล้านบาท ซึ่งจะมาจากการรับรู้รายได้จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีอยู่ทั้งหมด 700 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งจะมาจากโครงการที่จะเร่งทยอยโอนให้ทันกับมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง ซึ่งจะหมดอายุโครงการในสิ้นเดือนเม.ย.นี้ โดยบริษัทมีมูลค่าโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพร้อมโอนได้ทันมาตรการดังกล่าวราว 2 พันล้านบาท