SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,247.81 จุด ลดลง 1.17 จุด (-0.09%) มูลค่าการซื้อขาย 19,887.00 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยภาคเช้ายังผันผวนและเปราะบาง หลังดีดขึ้นแรงช่วงต้นตามทิศทางตลาดภูมิภาครับ sentiment ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าปรับตัวขึ้น แต่ไหลลงจนปิดในแดนลบ ท่ามกลางความกังวลความผันผวนตลาดหุ้นจีนและทิศทางราคาน้ำมัน ขณะที่ผลประกอบการกลุ่มแบงก์ส่วนใหญ่ดีกว่าคาดช่วยประคองดัชนีได้บ้าง ภาคบ่ายอาจแกว่งตัวกรอบ 1,240-1,260 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,247.81 จุด ลดลง 1.17 จุด (-0.09%) มูลค่าการซื้อขาย 19,887.00 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,263.67 จุด และจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,245.27 จุด
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยภาคเช้ามีความผันผวนมาก โดยดัชนีดีดตัวขึ้นไปในช่วงต้นตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค แม้ดัชนีดาวโจนส์ที่ปิดเมื่อคืนนี้ร่วงลงมากก็ตาม แต่ได้ sentiment ที่ดีจากราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าที่ดีดตัวขึ้นมาแรงในช่วงเช้าวันนี้
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังมีความเปราะบาง ทำให้ดัชนีลดช่วงบวกและไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง จากแรงกดดันเดิมคือความกังวลตลาดหุ้นจีนที่ยังผันผวนมาก รวมถึงทิศทางราคาน้ำมันดิบก็ยังคงมีความผันผวนด้วยเช่นกัน ส่วนปัจจัยภายในประเทศยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดโดดเด่น ขณะที่การประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/58 และทั้งปี 58 ของกลุ่มธนาคารที่ออกมาดีกว่าที่คาดช่วยประคองตลาดไว้ได้บ้าง
สำหรับแนวโน้มช่วงบ่ายคาดว่าดัชนีจะย่อตัวลงไป แต่จะยังเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,240 และแนวต้าน 1,260 จุด ภาพรวมการลงทุนยังเป็นลักษณะของการหมุนเวียนไปในกลุ่มต่าง ๆ และภาพรวมกรอบการเคลื่อนไหวยังเป็นการปรับตัวลง
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,557.95 ล้านบาท ปิดที่ 155.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,410.43 ล้านบาท ปิดที่ 162.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,285.68 ล้านบาท ปิดที่ 203.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 756.90 ล้านบาท ปิดที่ 2.96 บาท ลดลง 0.04 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 686.54 ล้านบาท ปิดที่ 116.50 บาท ลดลง 0.50 บาท