(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวน์ตามตลาดตปท. ภาพรวมนอกปท.ดี-ราคาน้ำมันดีดขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 22, 2016 09:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวน์ตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างอยู่ในแดนบวกกันทั่วหน้า ซึ่งภาพรวมจากนอกประเทศดี และราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวขึ้นด้วย ดังนั้นดัชนีฯวันนี้อาจจะเปิดกระโดดก็ได้หลังจากที่เมื่อวานนี้แรงขายส่วนใหญ่จะเป็นของกองทุน และสัญญาณทางเทคนิคก็ยืนอยู่ในเกณฑ์ที่จะรีบาวน์ได้ด้วย

ทั้งนี้ คาดว่าหุ้นในกลุ่มแบงก์ โดยเฉพาะหุ้น SCB น่าจะเด่น เนื่องจากราคายังไม่ค่อยปรับขึ้นไปเหมือนอย่าง KBANK ดังนั้นวันนี้น่าจะกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้ นอกจากนี้หุ้นในกลุ่มพลังงานก็น่าจะปรับขึ้นหลังราคาน้ำมันดีดขึ้น

นอกจากนี้ วันนี้เงินบาทกลับมาแข็งค่าด้วย อย่างไรก็ดี ให้ติดตามภาครัฐจะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยโครงสร้างพื้นฐานอย่างไรบ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,237 จุด ส่วนแนวต้าน 1,260 จุด หากทะลุได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,280 จุด ซึ่งหากยังทะลุได้อีกตลาดฯจะเป็นขาขึ้น

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(21 ม.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,882.68 จุด พุ่งขึ้น 115.94 จุด(+0.74%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,472.06 จุด เพิ่มขึ้น 0.37 จุด(+0.01%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,868.99 จุด เพิ่มขึ้น 9.66 จุด (+0.52%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 319.46 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 30.63 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 458.64 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 65.00 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 19.77 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 46.29 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.48 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(21 ม.ค.59)1,245.61 จุด ลดลง 3.37 จุด(-0.27%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 536.63 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ม.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(21 ม.ค.59) ปิดที่ 29.53 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.18 ดอลลาร์ หรือ 4.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(21 ม.ค.59)ที่ 10.31 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 36.20/21 หลัง ECB คงดอกเบี้ยแต่ส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม มองกรอบวันนี้ 36.15-36.25
  • นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่าทางการฮ่องกงจะยกเลิกการผูกติดค่าเงินเหรียญฮ่องกงกับเงินเหรียญสหรัฐนั้น น่าจะเป็นเพียงการคาดการณ์ของนักลงทุนในตลาดการเงินที่คาดกันไปเอง เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเป็นแผนของทางการฮ่องกงที่จะยกเลิกแต่อย่างใด
  • "สมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ"ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมร่วม 4 หน่วยงานเศรษฐกิจ ได้แก่ สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อพิจารณากำหนดกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 2560 โดยทุกหน่วยงานมีความเห็นใกล้เคียงกันว่าเศรษฐกิจปี 2560 จะขยายตัวได้ 4% มีอัตราเงินเฟ้อทั่วไป 2% (ช่วงคาดการณ์ 1.5-2.5% ต่อปี)
  • ธปท.จับตาความเสี่ยง รายได้-ความสามารถชำระหนี้ของครัวเรือน โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรและ SMEs ที่อาจโดนปัญหาภัยแล้งซ้ำเติมพบมีภาะหนี้-ความเสี่ยงผิดนัดสูง เสี่ยงเป็น NPL เพิ่ม และจับตาธุรกิจกองทุนรวม และสหกรณ์ออมทรัพย์ขยายเร็ว
  • นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในไตรมาสแรกขอปีงบประมาณ 2559 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 5.79 แสนล้านบาท ในขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ 8.9 แสนล้านบาท มีการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 2.65 แสนล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2558 มีจำนวน 3.86 แสนล้านบาท
  • นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2559 ตลาดรถยนต์จะยังชะลอตัวต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว และกำลังซื้อในปีนี้บางส่วนที่ถูกดึงไปซื้อในปีที่แล้วจากการปรับโครงสร้างสรรพสามิต ทำให้คาดว่าปีนี้จะมียอดขายรถยนต์รวม 7.2 แสนคัน ลดลง 10% จากปีที่แล้วที่มียอดขายรวม 7.9 แสนคัน
  • ฐานะการคลังไตรมาสแรกปีงบ 59 มีรายได้นำส่ง 5.79 แสนล้าน เบิกจ่าย 8.9 แสนล้าน กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 2.65 แสนล้าน ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นธันวาคม 2558 ทั้งสิ้น 3.86 แสนล้าน
  • นายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการ (กลยุทธ์และแผน) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เผยเตรียมลงนามในบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อโอนภารกิจการบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ให้ กทม.ดำเนินการตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) โดยหลังลงนามจะตั้งคณะกรรมการ 3 ชุดพิจารณาประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ 1.คณะกรรมการพิจารณาหนี้สินที่ กทม.ต้องจ่ายคืนให้ รฟม.และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง 2.คณะกรรมการเทคนิคพิจารณาการเชื่อมต่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ให้บริการอยู่กับโครงการที่ก่อสร้างอยู่ และ 3.คณะกรรมการพิจารณาการดำเนินการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ทั้งนี้ กทม.แจ้งว่าน่าจะเปิดให้บริการได้บางสถานีในปี 2560 ส่วนตามกำหนดเดิมจะเปิดบริการเต็มรูปแบบในปี 2562

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SCC(เคจีไอ)เป้าพื้นฐาน 620 บาท ประมาณการกำไรไตรมาส 4/58 ยังเติบโตได้ราว 4.1% YoY และ 2.4% QoQ เป็น 9.2 พันล้านบาท แม้ Spread ปิโตรเคมีในไตรมาส 4/58 จะแย่กว่าที่ฝ่ายวิจัยฯคาดก่อนหน้า ผลขาดทุนสต๊อกที่ลดลง และเงินปันผลจากการลงทุนในไตรมาสนี้ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ประเมินกำไรไตรมาสนี้ยังโต YoY และ QoQ ทั้งนี้ได้ปรับประมาณการกำไรปี 2559 ลงเล็กน้อยราว 6% เป็นผลจากสมมติฐานน้ำมันที่ลดลง แต่ยังคงมุมมองบวกต่อ Spread ปิโตรเคมี โดยคาดปันผล 2H58 ราว 7.0-7.3 บาท/หุ้น พร้อมประเมินราคาหุ้นรับข่าวลบเรื่อง Spread ปิโตรเคมีที่ลดลงในไตรมาส 4/58 ไปพอสมควรแล้ว มีโอกาสรีบาวด์ที่แนวรับ 402 บาท แนวต้าน 440 บาท แต่กรณีเลวร้ายหากต่ำกว่า 402 บาท
  • LH(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 10.27 บาท คาดปี 2559 ฟื้น และจ่าย Dividend สวยงาม ด้วยปัจจัยหนุนดังนี้ คาดรายได้โต Double Digit หลังจากติดลบในปี 2558, Dividend payout ratio กว่า 70% และรายได้ค่าเช่าคาดโต 28% โดยแผนธุรกิจปี 2559 มีเป้าหมายรายได้ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท เริ่มเห็นการฟื้นตัวจากรายได้ค่าเช่าทั้งในและต่างประเทศ
  • SIRI(ไอร่า)"ซื้อ"เป้า 1.75 บาท ตั้งเป้า Presale ในปี 59 ที่ 42,000 ล้านบาท โตสูง 47% จากแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ 21 โครงการ มูลค่ารวม 50,421 ล้านบาท โดยปรับลดประมาณการรายได้ปี 59 ลง 2% จาก Backlog รองรอรู้รายได้ในปี 59 ที่ต่ำแต่คาดผลกำไรจากการดำเนินการหลักยังคงเติบโตต่อเนื่อง 7% พร้อมคาดรายได้ปี 58 เติบโตโดดเด่นถึง 25% คาดอยู่ที่ 35,208 ล้านบาท จากการเร่งระบายสินค้าคงเหลือในสต๊อกและแรงหนุนของมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ