(เพิ่มเติม) RATCH คาดรับรู้ฯเงินปันผลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในจีนปี 64,รุกแผนลงทุนตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 22, 2016 17:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) คาดเริ่มรับรู้รายได้จากเงินปันผลในโครงการร่วมทุนโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟังเชงกัง ระยะที่ 2 กำลังการผลิตรวม 2,360 เมกะวัตต์(MW) ในสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 64 ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 30 ปีตามสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า หลังได้เข้าร่วมลงทุน 10% ในโครงการดังกล่าว พร้อมเดินหน้าขยายลงทุนต่างประเทศเพิ่มเติม โดยเล็งเข้าลงทุน 20-30% ในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน SUMSEL ในอินโดนีเซียที่คาดว่าจะมีความชัดเจนปีนี้ รวมถึงจะจับมือบมจ.บ้านปู(BANPU)เข้าประมูลโรงไฟฟ้าโครงการ JAVA3 ในอินโดนีเซียอีก 1 โครงการในปีนี้ หลังจากพลาดประมูลโรงไฟฟ้าโครงการ JAVA7 ไปแล้ว

นายรัมย์ เหราบัตย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ RATCH กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟังเชงกัง ในจีน มีกำลังการผลิตประมาณ 6 พันเมกะวัตต์ แบ่งเป็น 3 ระยะ โดยระยะแรก ประกอบด้วยหน่วยผลิตที่ 1 และ 2 กำลังผลิตรวมประมาณ 2 พันเมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันเดินเครื่องผลิตแล้ว ส่วนระยะที่ 2 ที่ RATCH ได้เข้าไปมีส่วนถือหุ้น 10% นั้น จะประกอบด้วยหน่วยผลิตที่ 3 และ 4 มีกำลังการผลิตหน่วยละ 1,180 เมกะวัตต์ โดยหน่วยผลิตที่ 3 จะเริ่มผลิตในปี 64 และหน่วยผลิตที่ 5 จะเริ่มผลิตในปี 65 ตามลำดับ หลังจากที่โครงการระยะ 2 สำเร็จแล้ว คาดว่าทางจีนจะเริ่มโครงการระยะที่ 3 ซึ่งจะมีอีก 2 หน่วยผลิตรวมกำลังการผลิตราว 2 พันเมกะวัตต์

สำหรับการลงทุนโครงการระยะ 2 ที่บริษัทจะใช้เงินลงทุนราว 7,500 ล้านบาทนั้น จะไม่กระทบต่อกระแสเงินสดที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากจะเป็นการทยอยลงทุนในช่วง 5 ปีข้างหน้า ขณะที่หากโครงการระยะที่ 2 เป็นไปได้ด้วยดี ก็มีโอกาสที่บริษัทจะเข้าร่วมลงทุนในโครงการระยะ 3 ในอนาคตด้วย

"หลังจากนี้ก็จะมีการตั้งบริษัทร่วมทุนของทั้งสามฝ่าย และยังต้องรอบางเงื่อนไขที่จะต้องมีการลงนามระหว่างภาครัฐ ซึ่งอาจจะเซ็นสัญญากันได้ต้นปีนี้...โครงการนี้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีอัตราผลตอบแทนการลงทุนไม่ต่ำกว่า 2 digit"นายรัมย์ กล่าว

อนึ่ง RATCH ในนาม บริษัท Ratch China Power Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ลงนามสัญญาร่วมทุน (Equity Joint Venture Contract) กับ China General Nuclear Power Corporation (CGN) และ Guangxi Investment Group Co.,Ltd (GIG) โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 10% , 51% และ 39% ตามลำดับ เพื่อจัดตั้งบริษัท กวางสี ฟังเชงกัง นิวเคลียร์ เพาเวอร์ II (Guangxi Fangchenggang Nuclear Power (II) Co,.Ltd ซึ่งจะเป็นผู้พัฒนา ก่อสร้าง และดำเนินโครงการไฟฟ้านิวเคลียร์ฟังเชงกัง ระยะที่ 2 โดยมีมูลค่าโครงการประมาณ 200,000 ล้านบาท (40,000 ล้านหยวน) โดยคิดเป็นสัดส่วนเงินลงทุนของบริษัท ประมาณ 7,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ RATCH จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนร่วมทุนเพิ่มจากการลงทุนในโครงการนี้อีก 236 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุนที่เดินเครื่องผลิตแล้ว, กำลังก่อสร้าง และพัฒนาเพิ่มเป็น 6814.12 เมกะวัตต์ โดยในส่วนนี้ราว 720.79 เมกะวัตต์ หรือ 10% เป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ทั้งจากพลังน้ำ,ลม,แสงอาทิตย์ และนิวเคลียร์

นายรัมย์ กล่าวว่า บริษัทจะรับรู้เงินปันผลจากสัดส่วนการร่วมทุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในปี 64 และต่อเนื่องเป็นเวลา 30 ปีตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และสามารถขยายเวลาได้อีก 30 ปี โดยโครงการจะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับรายได้ของบริษัท และเป็นจุดเริ่มต้นที่จะเข้าสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดในจีน ตลอดจนเพิ่มพูนทักษะเชิงเทคนิคด้านพลังงานนิวเคลียร์ให้กับบริษัทด้วย

สำหรับในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ราว 1 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนต่อเนื่องสำหรับโครงการในแผนงาน ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าหงสา หน่วยที่ 3 ในลาว ,โรงไฟฟ้านวนครโคเจนเนอเรชั่น และอื่นๆ รวมถึงใช้ซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าเพื่อรักษาประสิทธิภาพการผลิต โดยงบลงทุนดังกล่าวไม่รวมถึงโครงการลงทุนใหม่หรือการเข้าซื้อกิจการ ที่บริษัทยังคงมองหาโอกาสการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งลาว,เมียมมาร์,กัมพูชา,เวียดนาม,อินโดนีเซีย,ญี่ปุ่น ,ฟิลิปปินส์ โดยเป้าหมายหลักยังอยู่ในกลุ่มประเทศที่สามารถส่งไฟฟ้ากลับมาขายในไทยได้ ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะสามารถสรุปผลศึกษาลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ในลาวได้อย่างน้อย 1 โครงการ

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทคาดหวังว่าจะมีกำไรที่ไม่รวมอัตราแลกเปลี่ยนจะทำได้มากกว่าในปีที่แล้ว หลังจะมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาเพิ่มเติมจากโครงการโรงไฟฟ้าหงสา ยูนิต 3 และโรงไฟฟ้านวนครโคเจนเนอเรชั่น รวมถึงพยายามที่จะรักษาประสิทธิภาพการผลิตให้สามารถเดินเครื่องได้ต่อเนื่อง ขณะที่ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/58 อาจจะทำไม่ได้ตามที่คาดการณ์ หลังโรงไฟฟ้าหงสา หน่วยที่ 1 ต้องหยุดซ่อมบำรุงราว 30-40 วันในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.58 ที่ผ่านมา

ด้านนายภาสกร ดังสมัคร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนาธุรกิจ 2 ของ RATCH กล่าวว่า การที่บริษัทร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง CGN ก็มีโอกาสที่จะขยายความร่วมมือระหว่างกันออกไปในภูมิภาคอื่นๆได้อีก เนื่องจาก CGN มีความต้องการที่จะขยายการลงทุนมาในลาว หรือในไทย นอกจากนี้บริษัทยังจะร่วมมือกับพันธมิตร อย่าง BANPU เพื่อเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ ในโครงการ JAVA3 ขนาด 800 เมกะวัตต์ ในอินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมูลในปีนี้ด้วย หลังจากที่พลาดชนะประมูลโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน โครงการ JAVA7 มาแล้ว

นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างพิจารณาการเข้าร่วมลงทุน 20-30% ในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน SUMSEL ในอินโดนีเซีย ขนาดราว 700-800 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในปีนี้ โดยอาจจะดึงพันธมิตรบริษัทในกลุ่มการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) อย่างบมจ.ผลิตไฟฟ้า(EGCO)เข้าร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าวด้วย ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์การลงทุนที่จะเริ่มมีความร่วมมือกันจากโครงการเล็กๆและต่อยอดไปโครงการขนาดใหญ่ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ