(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าดีดขึ้นรับน้ำมันบวกแรง,เล็ง ECB-BOJ กระตุ้นศก.เพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 25, 2016 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่จะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างอยู่ในแดนบวกกันหมดเฉลี่ยราว 1% ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันได้บวกแรงเป็นวันที่ 2 และนักลงทุนยังคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มจากธนาคารกลางยุโรป(ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) ซึ่งทาง ECB ก็ว่าอาจจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มในการประชุมรอบหน้าเดือนมี.ค. ส่วนทาง BOJ จะมีการประชุมในวันที่ 28-29 ม.ค.นี้ ซึ่งก็ต้องติดตามดู

ส่วนตลาดหุ้นไทยก็เริ่มมีสัญญาณบวกจากนักลงทุนต่างชาติ และเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นด้วย น่าจะหนุนให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อได้ในระยะสั้น โดยน่าจะมีแรงซื้อคืนตามมาด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,265 จุด ส่วนแนวต้าน 1,290-1295 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(22 ม.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,093.51 จุด เพิ่มขึ้น 210.83 จุด(+1.33%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,591.18 จุด เพิ่มขึ้น 119.12 จุด(+2.66%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,906.90 จุด เพิ่มขึ้น 37.91 จุด(+2.03%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 187.28 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 17.52 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 260.90 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 57.55 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 10.72 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 24.75 จุด

ด้านตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดชดเชยเทศกาลไทปูซัม

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(22 ม.ค.59)1,268.03 จุด เพิ่มขึ้น 22.42 จุด(+1.80%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 815.20 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 ม.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(22 ม.ค.59) ปิดที่ 32.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ปรับตัวขึ้น 2.66 ดอลลาร์ หรือ 9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(22 ม.ค.59)ที่ 10.04 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเช้านี้แข็งค่าขึ้นเหนือ 36 ลุ้นผลประชุม FOMC-BOJ สัปดาห์นี้
  • การยางแห่งประเทศไทย(กยท.)เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 26 ม.ค.นี้ให้ใช้งบบริหารจัดการของ กยท.อีก 2,000 ล้านบาท เพิ่มเติมจากก่อนหน้านี้ที่บอร์ดอนุมัติไป 500 ล้านบาทเพื่อเข้าซื้อยางตามนโยบายของรัฐบาล และให้สำนักงบประมาณตั้งงบใช้คืนให้ กยท.โดย กยท.มีงบประมาณ 2 หมื่นล้านบาทที่จะสามารถให้ยืมใช้ได้
  • สมาคมอุตสาหกรรมเหล็กไทยเตรียมยื่นหนังสือให้รัฐบาลทบทวนการอนุญาตตั้งโรงงานเหล็ก โดยเบื้องต้นอยากให้เริ่มชะลอการอนุญาตตั้งโรงงานเหล็กเส้นทุกประเภทโดยเฉพาะโรงหลอมและโรงรีด จากปัจจุบันที่มีมากกว่า 50 โรง กำลังการผลิต 13 ล้านตัน/ปี ขณะที่มีความต้องการใช้เหล็กเพียงปีละไม่เกิน 4 ล้านตัน เชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในมาตรการที่ช่วยแก้ไขปัญหาราคาเหล็กตกต่ำได้
  • ปลัดกระทรวงพลังงาน มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)ไปศึกษาต้นทุนราคาเอทานอล ตั้งแต่พืชวัตถุดิบ ด้านการตลาด รวมทั้งนำไปเปรียบเทียบกับราคาเอทานอลของประเทศเพื่อนบ้านว่าสูงไปหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาราคาเอทานอลที่ใช้ในปัจจุบันส่งผลต่อต้นทุนการผลิตแก๊สโซฮอล์ที่ยังสูง สวนทางกับภาวะที่ราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาลงเช่นนี้
  • แบงก์ชาติตามติดการปรับตัวและฐานะการเงินของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายเล็ก ห่วงพฤติกรรมรายใหญ่หันระดมทุนช่องทางอื่นจะเกิดความเสี่ยง เผยในปี 58 ธปท.นำการตรวจสอบพิเศษช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีปัญหา แนะรัฐคำนึงความเสี่ยงอาจเพิ่มขึ้นจากการใช้มาตรการทางการเงินผ่าน SFIs
  • รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยยอดธุรกรรมการโอนเงินรายย่อย ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2558 พบว่า ทั้งระบบมียอดการโอนเงิน 3.6 ล้านรายการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 11.2% มีมูลค่า 2.52 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.6% ตามความต้องการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษในช่วงสิ้นปี และผลบวกจากมาตรการช็อปช่วยชาติ ที่รัฐให้สิทธิหักลดหย่อนภาษี 1.5 หมื่นบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเร่งให้คนจ่ายมากขึ้นด้วย
  • บอร์ด กสท.เล็งเพิ่มโทษปรับทรูฯ ไม่เรียงช่อง พร้อมถกฟรีทีวีที่อยู่ใน 10 ช่องแรกผิดหรือไม่

*หุ้นเด่นวันนี้

  • NCL-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์(NCL)มีจำนวน 139,997,497 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 4.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 20 มกราคม 2559) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 มิ.ย. 2559 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 19 ม.ค. 2561
  • PTTGC(โกลเบล็ก)เป้า 71 บาท เป็น TOP Pick เนื่องจากมี Upside 42% ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มปตท. โดยผลประกอบการถูกกดดันจากธุรกิจโอเลฟินส์ที่ส่วนต่างผลิตภัณฑ์ปรับตัวลงในปี 58 แต่ในปัจจุบันเริ่มทรงตัว อีกทั้งธุรกิจโรงกลั่นของบริษัทยังมีค่าการกลั่นที่ทรงตัวในระดับสูงเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม โดยระดับราคาปิดล่าสุดคิดเป็น PBV 0.8 เท่าต่ำกว่าบริษัทอื่นๆ ที่ดำเนินธุรกิจคล้ายคลึงกันในกลุ่มปตท
  • CPF(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 24 บาท คาดกำไรปกติ 4Q58 ที่ 484 ล้านบาท อ่อนตัวลง 62%QoQ หลังราคาสัตว์บกในประเทศมีแนวโน้มอ่อนตัวลง ธุรกิจกุ้งผ่าน High Season มาแล้วทำให้ยอดขายอาจลดลง ธุรกิจต่างประเทศรับความผันผวนเศรษฐกิจและความวุ่นวายในบางประเทศ ปี 59 คาดภาวะ Over Supply ของธุรกิจฟาร์มสัตว์บกเริ่มจำกัด และเห็นราคาในประเทศดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจกุ้งจะฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ หลังคาดผลผลิตในประเทศฟื้นตัว แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกและอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความไม่แน่นอนสูง
  • SCB(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 158 บาท ผลกระทบจาก NPL ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวในไตรมาส 3 และราคาหุ้นได้ปรับลงรับข่าวร้ายไปเยอะแล้ว ปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวยังดีจากการเป็นแบงก์ขนาดใหญ่ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดจะเห็นผลดีชัดเจนในปีนี้ ขณะที่ฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง อัตราส่วนเงินกองทุนตามเกณฑ์ BIS ratio เท่ากับ 17.3% และมีเงินกองทุนชั้นที่ 1(Tier I) เท่ากับ 14.1%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ