ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยคงจะรับ Sentiment ลบจากต่างประเทศ ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงก็คงจะไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน ทำให้ไปกดดันตลาดฯต่อไป อย่างไรก็ดี ตลาดฯก็ยังรอดูการประชุมเฟดในวันที่ 26-27 ม.ค.นี้ ซึ่งแนวโน้มคงจะยังไม่ได้มีอะไร แต่ก็ต้องรอดูความเห็นที่จะออกมา
พร้อมให้แนวรับ 1,260-1,250 จุด ส่วนแนวต้าน 1,280 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(25 ม.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,885.22 จุด ร่วงลง 208.29 จุด(-1.29%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,518.49 จุด ลดลง 72.69 จุด(-1.58%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,877.08 จุด ลดลง 29.82 จุด(-1.56%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 277.78 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 30.80 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 271.30 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 62.05 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 11.56 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 16.83 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.08 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(25 ม.ค.59)1,267.70 จุด ลดลง 0.33 จุด(-0.03%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 107.49 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ม.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(25 ม.ค.59) ปิดที่ 30.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.85 ดอลลาร์ หรือ 5.8%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(25 ม.ค.59)ที่ 10.41 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเช้านี้ 35.97 แข็งค่าจากเย็นวานนี้ นักลงทุนรอติดตามผลประชุมเฟดกลางสัปดาห์นี้
- นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับนโยบายและบริหารหนี้สาธารณะ ที่มีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เป็นประธาน ได้เห็นชอบการปรับแผนการบริหารหนี้สาธารณะครั้งที่ 1 ปีงบประมาณ 2559 มีกรอบวงเงิน 1.74 ล้านล้านบาท เพิ่มจากแผนเดิม 1.32 หมื่นล้านบาท จะเสนอแผนให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบใน 2 สัปดาห์
- "บุญชัย โชควัฒนา" ประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล เปิดเผยว่า ในปี 2559 เศรษฐกิจไทยน่าจะเติบโตได้ 3% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้ เพราะได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และจะค่อยๆ ฟื้นตัวจากที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบให้ผู้มีรายได้น้อยมีกำลังซื้อมากขึ้น เพื่อให้มีการจับจ่ายใช้สอย
- นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ประมาณ 4-4.5 แสนคน สร้างรายได้สะพัด 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 10% เนื่องจากความนิยมท่องเที่ยวไทยของคนจีนยังมีอย่างต่อเนื่อง
- "ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์"ผู้อำนวยการสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในปีนี้มองว่าน่าจะยังเติบโตอยู่ในระดับ 3% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจยังคงน่าเป็นห่วง แต่อย่างไรก็ตามหากนำภาพรวมกำลังซื้อมาเปรียบเทียบกับปี 2558 ที่ผ่านมาถือว่า ปีนี้ปรับตัวดีขึ้น เพราะภาครัฐมีมาตรการต่างๆ ออกมากระตุ้น กำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
- กระทรวงการคลังได้รายงานความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนให้คณะกรรมการขับเคลื่อนมากระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ โดยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี วงเงินรวม 1.5 แสนล้านบาท วงเงินในส่วนแรก 1 แสนล้านบาท ได้ปล่อยกู้หมดไปตั้งแต่ปลายปี 2558 ทางด้านวงเงินเพิ่มเติมอีก 5 หมื่นล้านบาท ธนาคารออมสินได้อนุมัติไปแล้ว 3.92 หมื่นล้านบาท
- กพท.ชงครม.อนุมัติงบกลางจ้างผู้เชี่ยวชาญอังกฤษช่วยปลดธงแดงไอเคโอ แจกใบอนุญาตการบินใหม่เริ่มพ.ค. เคาะแล้วโครงสร้างเงินเดือนผอ.ได้สูงสุด 5 แสนบาทต่อเดือน พร้อมเงินประจำตำแหน่งอีก 25%
*หุ้นเด่นวันนี้
- TOP(ไอร่า)"ซื้อ"เป้า 85 บาท คาดผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 4/58 จะออกมาโดดเด่น จากค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับสูง แต่คาดจะมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันตามราคาน้ำมันดิบที่ลดลง พร้อมคาดผลการดำเนินงานในปี 59 ยังคงโดดเด่น และจะไม่มีผลกระทบจากขาดทุนสต็อกน้ำมันจำนวนมากอีก ในขณะที่จะมีกำไรจากโรงไฟฟ้า SPP และโครงการ LAB เข้ามาเสริม พร้อมคาดผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 4.86%
- CPF(ไอร่า)"ซื้อ"เป้า 24 บาท คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติในช่วงไตรมาส 4/58 เติบโตหลักๆจากยอดขายของธุรกิจในเวียดนามที่ยังขยายตัวได้ดี และการฟื้นตัวของธุรกิจกุ้ง พร้อมคาดผลประกอบการช่วงไตรมาส 1/59 มีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องจากราคาเนื้อสัตว์ที่ต่ำในไตรมาส 1/58 การรับรู้รายได้ของ S&W เต็มไตรมาส ขณะที่คาดผลกระทบจากการตรวจสอบการใช้แรงงานผิดกฎหมายมีจำกัด
- KTB (ยูโอบี เคย์เฮียนฯ)"สะสม" แม้ earning จะโตไม่มากปีนี้ แต่ sentiment จากการประมูลโครงการรัฐจะเข้ามาช่วย นอกจากนี้การปรับปรุงระบบภายใน เช่น การลดต้นทุนและอนุมัติสินเชื่อที่ดีขึ้น ตลอดจนระบบทวงหนี้ที่ทำงานได้ดีมากขึ้น ก็ช่วยให้แบงก์ KTB มีอนาคตไกล บวกกับปันผลสูงใกล้ๆ 5.5% และปัญหาหนี้เสีย SSI ก็ผ่านไปเรียบร้อยแล้วด้วย
- KKP (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 45 บาท กำลังกลับเข้าสู่ Growth stage อีกครั้งโดยเน้นความร่วมมือระหว่างบริษัทในกลุ่มมากขึ้น การทำธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ การพัฒนา On-line internet banking ลดการพึ่งพายอดขายรถยนต์ โดยปรับกำไรปี 59 ขึ้น 9% เป็นเติบโต 8% จากปีก่อน และคาดจ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 58 ที่ 1.35 บาท (Yield 3.5%)
- GFPT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 13 บาท แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 4/58 ดีกว่าที่เคยคาด น่าจะเพิ่มขึ้น 28.5% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 13.6% จากงวดปีก่อน สวนทางฤดูกาลที่ชะลอเมื่อเทียบต่อไตรมาส เพราะรับรู้ปริมาณขายส่งออกที่ถูกเลื่อนมาจากไตรมาสก่อนๆ หนุนรายได้ และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม (McKey และ GFN) ที่คาดว่าจะทำจุดสูงสุดใหม่ โดยปรับกำไรสุทธิปี 58-59 ขึ้น 23% และ 10% เป็นลดลง 34.7% เมื่อเทียบปีต่อปี ในปี 58 และเพิ่มขึ้น 14.6% เมื่อเทียบปีต่อปีในปีนี้จากภาวะ Oversupply เริ่มคลี่คลาย
- MAJOR(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 32.50 บาท Star Wars และหนังฟอร์มใหญ่บางเรื่องทำเงินต่ำกว่าคาด ทำให้คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/58 ลดลง 52% จากไตรมาสก่อน และลดลง 21% จากงวดปีก่อน โดยปรับกำไรปกติปี 58-59 ลงเป็นลดลง 9% เมื่อเทียบปีต่อปีในปี 58 และเพิ่มขึ้น 23.5% เมื่อเทียบปีต่อปีในปีนี้ โดยการเติบโตในปีนี้จะมาจากการเพิ่มโรงภาพยนตร์อีก 80 โรงและมีหนังฟอร์มใหญ่อีกหลายเรื่อง ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับลงมาสะท้อนกำไรไตรมาส 4/58 ไปแล้ว