อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจในปีนี้ยังมีความเสี่ยงเรื่องภาวะภัยแล้ง ภาวะเศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่และของเศรษฐกิจโลกที่ยังต้องระมัดระวัง เพราะอาจทำให้การขยายตัวของสินเชื่อธนาคารไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ เบื้องต้นจากการประเมินของ บล.ภัทร คาดว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตได้ระดับ 3.2% ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากปี 58
สำหรับปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่ดีของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร สะท้อนจากผลประกอบการที่เติบโตขึ้น คุณภาพของสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ ตลอดจนความคืบหน้าในกลุ่มธุรกิจที่ร่วมมือกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการ ขณะที่ปี 59 เข้าสู่ระยะที่ 2 คือ การขยายธุรกิจตามยุทธศาสตร์หลัก 3 ด้าน ได้แก่ การเป็น Credit House ที่มีประสิทธิภาพ ถัดมาคือการพัฒนาต่อยอดธุรกิจ Private Banking ที่ภัทรมีประสบการณ์ทางธุรกิจนี้มากว่า 15 ปีและสุดท้ายคือรักษาความเป็นผู้นำในด้าน Investment Banking ที่เป็นธุรกิจดั้งเดิมของภัทรและเป็นผู้นำในธุรกิจนี้อยู่แล้ว