นายชนินทร์ เชาวน์นิรัติศัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวดำเนินการโดยบริษัท ซานบัวนาเวนทูรา พาวเวอร์ จำกัด (เอสบีพีแอล) ซึ่งเป็นบริษัทที่ EGCO ลงทุนร่วมกับเมอราลโค พาวเวอร์เจน คอร์เปอเรชั่น ในสัดส่วนร้อยละ 49 และ 51 ตามลำดับ
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน “เอสบีพีแอล" ได้รับรางวัลนี้ ได้แก่ 1) ด้านการจัดหาเงินกู้ เป็นโครงการที่มีการกู้เงินในสกุลเงินฟิลิปปินส์เปโซทั้งหมด โดยมีวงเงินจำนวน 42,150 ล้านฟิลิปปินส์เปโซ (ประมาณ 32,000 ล้านบาท) ระยะเวลากู้ 15 ปี จากกลุ่มธนาคารในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นการกู้ที่มีวงเงินสูงที่สุด และเป็นหนึ่งในโครงการที่มีระยะเวลากู้ยาวนานที่สุดที่ธนาคารในประเทศฟิลิปปินส์เคยปล่อยกู้มา
2) ด้านเทคนิค เป็นโรงไฟฟ้าแรกในประเทศฟิลิปปินส์ที่ใช้เทคโนโลยี Supercritical 3) ด้านความน่าเชื่อถือของโครงการ นอกจากได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากกลุ่มธนาคารในประเทศฟิลิปปินส์ และดำเนินโครงการโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมไฟฟ้าทั้งในระดับประเทศและระดับสากลอย่างเอ็กโก กรุ๊ป และเมอราลโคแล้ว โครงการยังก่อสร้างโดยบริษัทผู้รับเหมาชั้นนำระดับโลกอย่างมิตซูบิชิ คอร์เปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และแดลิม อินดัสเทรียล ประเทศเกาหลีใต้
และ 4) ด้านความคุ้มค่าของการลงทุนและประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน เป็นโครงการที่ใช้อุปกรณ์และระบบต่างๆ ร่วมกับโรงไฟฟ้าเคซอนที่มีอยู่ปัจจุบัน ซึ่งช่วยลดต้นทุนของโครงการ ส่งผลให้ราคาค่าไฟฟ้าอยู่ในระดับต่ำ ยิ่งไปกว่านั้น โครงการนี้จะช่วยเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าบนเกาะลูซอน ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน “เอสบีพีแอล" อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างในบริเวณเดียวกับโรงไฟฟ้าเคซอน ในเมืองเมาบัน จังหวัดเคซอน ประเทศฟิลิปปินส์ มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 500 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตตามสัญญาจำหน่ายไฟฟ้า 455 เมกะวัตต์ โดยได้ทำสัญญาจำหน่ายไฟฟ้ากับมะนิลา อิเล็กทริก คัมปานี เป็นระยะเวลา 20 ปี และคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ประมาณกลางปี 62