ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพัฒนาเมนูกับข้าวอาหารไทย เช่น ขาหมู หมูแดง หมูกรอบ ข้าวหน้าไก่ ข้าวอบหนำเลี๊ยบ กะหล่ำปลีตุ๋นเห็ดหอม ฯลฯ ซึ่งเป็นกลุ่มกับข้าวที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคคนไทย หลังจากในช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยภายใต้ชื่อ บมจ.ไทยโฮมฟู้ด (กรุงเทพฯ) เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจดังกล่าว โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินธุรกิจได้ภายในกลางปีนี้
สำหรับการรุกธุรกิจอาหารไทยประเภทกับข้าวซื้อกลับบ้าน บริษัทฯ วางเป้าหมายขยายฐานลูกค้าเจาะกลุ่มผู้บริโภคในวัยทำงานที่ต้องใช้ชีวิตประจำวันอย่างเร่งรีบ จึงไม่มีเวลาเข้าครัวปรุงอาหารที่บ้านเอง โดยในเบื้องต้นจะมีทั้งรูปแบบการเปิดเป็นร้านจำหน่ายอาหารภายในสถานีบริการน้ำมันและการนำอาหารเข้าไปจำหน่ายภายในพื้นที่ร้านขาหมูยูนนานของ ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ เพื่อเป็นเมนูทางเลือกให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะพัฒนารถให้บริการจำหน่ายอาหารเคลื่อนที่ เพื่อรุกเข้าถึงลูกค้าที่เป็นผู้อยู่อาศัยในแหล่งชุมชนต่าง ๆ โดยในช่วงแรกจะเน้นการจำหน่ายในพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อนขยายออกสู่ต่างจังหวัดต่อไปในอนาคต
“เรามองว่าธุรกิจอาหารไทยแบบซื้อกลับบ้านยังมีช่องว่างทางการตลาดอยู่และสามารถต่อยอดจากธุรกิจหลักของเราที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ได้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจ โดยการใช้กลยุทธ์มูฟวี่ มาร์เก็ตติ้ง ในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนการรับรู้และตอกย้ำแบรนด์ของเราเพื่อรองรับการขยายธุรกิจใหม่ โดยอาหารของเราจะเน้นรสชาติและคุณภาพที่ดี ส่วนราคาขายในเบื้องต้นจะอยู่ในระดับเดียวกับท้องตลาด เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราสามารถซื้อได้ง่าย" นายจรัสภล กล่าว
นายจรัสลภ กล่าวว่า บริษัทยังได้เตรียมความพร้อมด้านบุคลากรเพื่อรองรับแผนงานขยายธุรกิจใหม่ของ ส.ขอนแก่น จึงได้จับมือกับวิทยาลัยเทคโนโลยีครัววันดี ซึ่งเป็นสถาบันที่เปิดสอนด้านอาหารและโภชนาการ เพื่อร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ในการสนับสนุนความร่วมมือทางวิชาการในการรับนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และระดับปริญญาตรีในสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ เข้าฝึกงานกับบริษัทเพื่อพัฒนาความรู้และความชำนาญ รวมถึงเปิดโอกาสให้เข้าร่วมงานกับบริษัทฯ ขณะเดียวกันยังเป็นการรองรับความต้องการด้านบุคลากรวิชาชีพในอุตสาหกรรมอาหารของไทยด้วย