นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นต่อ โดยคาดว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาเก็งกำไรตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และหุ้นที่มีปันผลดี เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของไทยออกมาดีกว่าตลาดไว้ และให้ปันผลที่ดีด้วย อย่าง PTTEP จะเห็นได้ว่าผลประกอบการไตรมาส 4/58 ไม่ได้ขาดทุน ทั้งที่ราคาน้ำมันก็ปรับตัวลง และยังให้ปันผล 2 บาท/หุ้น ด้วย คิดเป็น Yield ราว 5% ถือว่าใช้ได้ ก่อนหน้านี้ก็มีงบฯของ SCC ก็ออกมาดี และงบฯของกลุ่มแบงก์โดยรวมก็ออกมาดีกว่าตลาดคาด
นอกจากนี้ ตลาดฯเริ่มดูดีขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นด้วยเมื่อคืนที่ผ่านมา และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในแดนบวกราว 0.3-0.5% มีเพียงตลาดหุ้นญี่ปุ่น และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เท่านั้นที่ติดลบ
พร้อมให้แนวรับ 1,280 จุด ส่วนแนวต้าน 1,295-1,300 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (28 ม.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,069.64 จุด พุ่งขึ้น 125.18 จุด (+0.79%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,506.68 จุด เพิ่มขึ้น 38.51 จุด (+0.86%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,893.36 จุด เพิ่มขึ้น 10.41 จุด (+0.55%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 2.81 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 57.41 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 24.32 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 1.93 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.11 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 26.69 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.81 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.31 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 113.61 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 ม.ค.59)1,288.40 จุด เพิ่มขึ้น 10.11 จุด (+0.79%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 102.69 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ม.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (28 ม.ค.59) ปิดที่ 33.22 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ หรือ 2.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 ม.ค.59) ที่ 8.49 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.81/83 แกว่งแคบ ติดตาม GDP Q4/58 สหรัฐฯ - ประชุม BOJ
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เดินทางไปเจรจาโครงการรถไฟไทย-จีน กับฝ่ายจีน โดยฝ่ายไทยต้องการให้ฝ่ายจีนรับหลักการใหญ่ที่ไทยเสนอก่อน คือ ตั้งบริษัทร่วมลงทุนร่วมกัน จากนั้นจึงจะเจรจาสัดส่วนการถือหุ้น
- แบงก์ชาติเผยยอดโอนเงินรายย่อยเพิ่มขึ้นมากกว่า 200% ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดปี 58 มีมากกว่า 41 ล้านครั้ง คิดเป็นวงเงินรวมมากกว่า 2.5 ล้านล้านบาท สะท้อนคนไทยเข้าใจการใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ขณะที่การค้าขายออนไลน์เป็นตัวดันยอดโอนเงินรายย่อยพุ่งสูง
- พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯ ได้สั่งการให้สำนักธุรกิจเกมเร่งศึกษาการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเฉพาะโครงการลอตเตอรี่ออนไลน์ ตามแผนโรดแมประยะที่ 3 ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ตามมติคณะกรรมการสลากฯ ในการแก้ไขปัญหาการขายลอตเตอรี่เกินราคาอย่างยั่งยืน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน มิ.ย.นี้ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเชื่อว่าจะเริ่มกระบวนการต่างๆ ได้ภายในปี 2559
- "ศิรินารถ ใจมั่น" อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยขณะนี้สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม) และสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ไอทีดี) ได้สรุปผลศึกษาในเบื้องต้นเกี่ยวกับความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) แล้ว โดยเห็นว่าไทยควรเข้าร่วม เพราะจะเกิดผลดีมากกว่า และยังจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพิ่มขึ้น 0.77% แต่ถ้าไทยเข้าร่วมและสมาชิกอาเซียนอย่างอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เข้าร่วมด้วยเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 1.06% เพราะจะช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าและบริการของประเทศให้สูงขึ้น ช่วยสร้างโอกาสในการออกไปลงทุนและแสวงหาวัตถุดิบในต่างประเทศ และการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา
- นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ คาดว่าการซื้อขายทองคำในช่วงตรุษจีนจะไม่คึกคักเช่นเดียวกับปี 2558 เพราะเศรษฐกิจไทยยังไม่ดีขึ้น การให้ของขวัญหรือ อั่งเปาในช่วงตรุษจีนจึงลดลงตามไปด้วย โดยประเมินว่าราคาทองช่วงตรุษจีนอยู่ที่บาทละ 1.75-2.2 หมื่นบาท ขณะที่ราคาทองในปีนี้จะผันผวนมากกว่าปี 2558 เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ย 2-3 ครั้งในปีนี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPN (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 65 บาท คาดกำไร 4Q8 สูงสุดสำหรับปีและคงคาดกำไรทั้งปีตามเดิม โดยคาดการณ์กำไรสุทธิเกือบ 2.5 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 36%YoY และ 34%QoQ ทั้งนี้ประมาณการกำไรปี 58 ราว 8.5 พันล้านบาทซึ่งเติบโต 16%YoY และคาดกำไรปี 59 เติบโตต่อเนื่องราว 15% โดยได้เพิ่มแหล่งรายได้ด้วยการพัฒนาคอนโดมิเนียมเพื่อขาย
- CI (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 3.50 บาท คาดกำไรสุทธิ 4Q58 ประมาณ 110 ล้านบาท (+312.3% QoQ, +0.7% YoY) ทำจุดสูงสุดของปี โดยได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้โครงการต่าง ๆ ด้านธุรกิจโรงแรมยังคงเติบโตได้ดีตามปัจจัยฤดูกาล คาดรายได้จากธุรกิจโรงแรมสำหรับปี 2558 เติบโตประมาณ 15% YoY ส่งผลให้ทั้งปี 2558 กำไรจากธุรกิจ turnaround ที่ 157 ล้านบาท พร้อมคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อผลการดำเนินงาน ปี 2559 โดยกำไรจากการดำเนินงานปกติเติบโตโดดเด่น จากการรับรู้รายได้โครงการจำนวนมาก
- MTLS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 25 บาท มีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรปี 2016 ขึ้นหลังบริษัทปรับโครงสร้างทางการเงินโดยเพิ่มสัดส่วนเงินกู้ระยะยาวเป็น 50% จากเดิม 20% ด้วยต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำกว่า 4% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของต้นทุนเดิม ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจะขยับขึ้นจากปีก่อนอย่างน้อย 1% กระทบกำไรราว 5% ต่อปี ซึ่งอยู่เหนือการคาดการณ์ของเราและตลาด นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่าสินเชื่อจะเร่งตัวกว่าที่คาดไว้
- BJC (ฟันันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 39 บาท คาดกำไรปกติ 4Q15 โตโดดเด่น +70.5% Q-Q, +19% Y-Y ตามฤดูกาล และการลดค่าใช้จ่ายในการทำตลาดในประเทศอย่างหนัก ทำให้กำไรทั้งปีน่าจะโต 10% Y-Y และคาดปีนี้โตต่อ +12% Y-Y หนุนโดยธุรกิจในเวียดนามที่โตต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกที่จะได้ Synergy หลัง TCC Holding ควบรวม Metro เวียดนามแล้วเสร็จต้น ม.ค. ที่ผ่านมา และการปรับโครงสร้างธุรกิจที่ไม่ทำกำไร ราคาหุ้นปรับลงมาจน upside กว้างขึ้น
- FSMART (ฟันันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 17.70 บาท กำไร 4Q15 สดใส คาด +11% Q-Q, +48% Y-Y จากยอดการเติมเงินผ่านตู้เติมเงินบุญเติมเพิ่มตามจำนวนตู้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้กำไรปี 2015 +78% Y-Y โดยปรับกำไรปี 2016-17 ขึ้น 5-9% เป็นโตสูงถึง 48% Y-Y และ 29% Y-Y ตามลำดับ จากการขยายตู้เติมเงินเพิ่มถึงปีละ 2.3-2.4 หมื่นตู้ มากกว่าที่คาด