นอกจากนี้ตามแผน 5 ปี (ปี 58-62) บริษัทจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 500 เมกะวัตต์จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือ 261 เมกะวัตต์ โดยวางงบลงทุนไน 5 ปีดังกล่าวไว้ที่ระดับ 3-4 พันล้านบาท โดยจะเน้นขยายไปยังต่างประเทศ ทั้งในเมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ ขณะที่ในวันที่ 9 ก.พ.นี้ จะเปิดเผยรายละเอียดของโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประเภทโซลาร์ฟาร์ม ในญี่ปุ่นด้วย
สำหรับการขยายกำลังการผลิตในประเทศ ปัจจุบันบริษัทรอความชัดเจนจากโครงการโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ซึ่งมีความล่าช้า แต่ถ้าหากเกิดขึ้นจริงบริษัทก็อาจจะไปร่วมกับพันธมิตร ซึ่งคาดว่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 50 เมกะวัตต์ แต่ทั้งนี้คงต้องรอดูความชัดเจนจากภาครัฐอีกที
ส่วนในปีนี้บริษัทวางงบลงทุนไว้ 1 พันล้านบาท เพื่อใช้ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าอีก 100 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้สิ้นปี 59 บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งหมดอยู่ที่ 361 เมกะวัตต์ จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 261 เมกะวัตต์
อีกทั้งบริษัทตั้งเป้าปี 59 มีสัดส่วนรายได้จากการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป)เพิ่มเป็น 20% จากปี 58 อยู่ที่ 3-4% แม้ว่างานดังกล่าวอาจจะมีมาร์จิ้นไม่สูงมากนัก แต่ยังมีโอกาสการเติบโตได้ ซึ่งบริษัทได้ไปร่วมกับพันธมิตรอย่างล่าสุดร่วมมือกับ บมจ.ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ เพื่อติดตั้ง โซลาร์รูฟบนหลังคาของโครงการ ซึ่งจากนี้หากธนาพัฒน์ฯ เปิดโครงการอื่นๆในอนาคตบริษัทก็จะร่วมติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปด้วย