ทรูมูฟ เอช เห็นว่า การปิดกั้นการสื่อสาร โดยการระงับ ชะลอ ขัดขวาง รบกวน และดักรับไว้ เป็นความผิดต่อกฎหมายอาญาแผ่นดิน เช่น พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงถึง 10 ปีต่อการ กระทำความผิด 1 ครั้ง (เช่น หากมีการบล็อก 100 ครั้ง ก็มีโทษจำคุกสูงถึง 100x10 ปี เท่ากับ 1,000 ปี เป็นต้น) พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 มีโทษจำคุกสูงถึง 2 ปีต่อการกระทำความผิด 1 ครั้ง และประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 21 เรื่องการห้ามดักฟังโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด มีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปีต่อการกระทำความผิด 1 ครั้ง
นางศุภสรณ์ โหรชัยยะ ตัวแทนทรู มูฟ เอช เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมที่จะทำการปกป้องสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภค เมื่อได้รับผลกระทบอย่างไม่เป็นธรรมจากผู้ประกอบการรายอื่น ซึ่งบริษัทจะทยอยส่งหลักฐานทางคดีแก่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต่อไป เท่าที่พบในขณะนี้ เมื่อลูกค้าของบางเครือข่ายโทรเข้าหมายเลขทรูมูฟ เอชแคร์ 1331 ของทรูมูฟ เอชจะถูก 1). ตัดสายโดยทันที หรือ 2.) ตัดเข้าระบบตอบรับด้วยเสียงของเครือข่ายดังกล่าวเพื่อทำการประชาสัมพันธ์สินค้าของเครือข่ายนั้น ๆ แล้วตัดสาย หรือ 3.) ตัดเข้าระบบตอบรับด้วยเสียงของเครือข่ายดังกล่าวเพื่อทำการประชาสัมพันธ์สินค้าของเครือข่ายนั้นๆ ก่อนที่จะเข้าคอล เซ็นเตอร์ ของทรูมูฟ เอช
“การแจ้งความให้มีการดำเนินคดีในครั้งนี้ เพื่อให้ ปคบ.ช่วยสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินคดีต่อผู้ทำผิดตามอาญาบ้านเมืองซึ่งเป็นความผิดทางอาญาแผ่นดิน และรับผิดทางแพ่ง"นางศุภสรณ์ กล่าว