นายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการแทนรองเลขาธิการ กสทช.กล่าวว่า ไทยทีวีจะต้องจ่ายเงินค้างชำระตั้งแต่งวดที่ 2-6 รวม 1,634.4 ล้านบาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าปรับของค่างวดที่ 2 ในอัตรา 7.5% ต่อปี หรือเป็นเงินประมาณ 14.3 ล้านบาท อีกทั้งค่าธรรมเนียมค้างชำระอยู่ของปี 57 และ 58 ในอัตราค่าธรรมเนียม 2% ต่อปี โดยคิดจากผลประกอบการของทั้ง 2 ช่องรายการ หากไม่นำเงินมาชำระตามกำหนดดังกล่าว ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ในฐานะที่ออกแบงก์การันตีจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบภายใน 30 วัน
ส่วนกรณีที่บริษัท จีเอ็มเอ็ม บี จำกัด แจ้งเปลี่ยนระบบการให้บริการแพ็กเกจ Z Pay TV ผ่านกล่องรับสัญญาณ GMMz นั้น กสท.มีมติให้บริษัท จีเอ็มเอ็มแซท จำกัด และบริษัท จีเอ็มเอ็มบี จำกัด ต้องรับผิดชอบร่วมกัน โดยการส่งแผนเยียวยาผู้ใช้บริการมายัง สำนักงาน กสทช.เพราะไม่ได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 30 วันก่อนมีการเปลี่ยนแปลง
การกระทำของทั้ง 2 บริษัท เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อ 15 วรรคแรก ของประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรฐานของสัญญาการให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก พ.ศ.2556 และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการให้บริการที่บริษัทฯ ได้ตกลงไว้กับผู้ใช้บริการ โดยปราศจากเหตุผลอันสมควร ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ทั้งนี้ หากยังไม่มีการเยียวยาหรือฝ่าฝืนอีกจะต้องมีโทษปรับทางปกครองจำนวน 2 ล้านบาท และจ่ายค่าปรับเป็นรายวัน 1 แสนบาทต่อวัน