นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าซึมลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจโลก ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็ปรับตัวลดลง โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงหลุด 30 ดอลลาร์/บาร์เรลอีกครั้ง มาที่ระดับ 29.69 ดอลลาร์/บาร์เรล เป็น sentiment เชิงลบ
ทั้งนี้ มองว่าตลาดหุ้นช่วงนี้จะผันผวนตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เพราะการเจรจาระหว่างกระทรวงพลังงานซาอุดิอาระเบียและเวเนซุเอล่า ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลกยังไม่ได้ข้อสรุป ดังนั้น ภาพรวมวันนี้คงจะซึมๆ และวอลุ่มเบาบาง
ประกอบกับ ตลาดภูมิภาคที่เปิดทำการในวันนี้ยังมีเพียงตลาดหุ้นไทย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ส่วนตลาดอื่นๆ ยังปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน
พร้อมให้แนวรับ 1,300 และ 1,295 จุด แนวต้าน 1,313-1,317 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 ก.พ.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,027.05 จุด ร่วงลง 177.92 จุด หรือ -1.10% จุด ,ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,283.75 จุด ลดลง 79.39 จุด (-1.82%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,853.44 จุด ลดลง 26.61 จุด (-1.42%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 337.51 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ ลดลง 25.18 จุด
ส่วนตลาดหุ้นที่ปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประกอบด้วย ตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 ก.พ.59) 1,307.57 จุด เพิ่มขึ้น 1.28 จุด (+0.10%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 45.42 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ก.พ.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 ก.พ.59) ปิดที่ 29.69 ดอลลาร์/
บาร์เรล ร่วงลง 1.2 ดอลลาร์ หรือ 3.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 ก.พ.59) ที่ 6.75 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.51/53 แนวโน้มแกว่งแคบในกรอบ 35.50-35.60 รอปัจจัยใหม่
- สมรภูมิค้าปลีกไทยระอุ ทีซีซี กรุ๊ป ปักธงเบอร์ 2 "ไฮเปอร์มาร์เก็ต" ได้เปรียบ อำนาจต่อรองสินค้า ช่องทางขาย ปูทางอนาคต "ต่อยอด" ขยายอาณาจักรค้าปลีก ด้าน "บิ๊กซี" เดินหน้าทุ่ม 7 พันล้าน สยายปีกปรับปรุงธุรกิจ
- บอร์ด กสท.ลงมติเอกฉันท์สั่ง "เพิกถอนใบอนุญาต" 2ช่องทีวีดิจิทัล "ไทยทีวี-โลก้า" หลังไม่จ่ายเงินประมูลงวดที่2 ตามกำหนด ส่งหนังสือจ่ายประมูลทุกงวดมูลค่า 1.6 พันล้าน ใน 30 วัน ขณะที่"แบงก์กรุงเทพ"เผยรอแจ้งหนังสือยึดแบงก์การันตีจาก กสทช.
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานวิเคราะห์ผลกระทบของไทยจากการที่คณะกรรมการบริหารของธนาคารแห่งชาติญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้มีมติใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบ 0.1% ว่า อัตราดอกเบี้ยที่ติดลบอาจทำให้เกิดสงครามค่าเงิน เพราะเงินเยนอ่อนค่า เงินหยวนจีนก็อ่อนค่าเช่นกัน และ 2 ประเทศนี้ก็พึ่งพาการส่งออก ส่งผลให้สินค้าไทยไม่สามารถส่งไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันกับสินค้าจากญี่ปุ่นและจีนในประเทศที่สามด้วย
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานจำนวนบุคคลรับอนุญาตให้ทาธุรกรรมแลกเงินตราต่างประเทศที่เป็นผู้ประกอบการโรงแรม ธุรกิจเจ้าของคนเดียว หรือห้างหุ้นส่วน ที่ไม่ใช่ธนาคารแต่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจการซื้อและขายธนบัตรต่างประเทศ และรับซื้อเช็คเดินทางจากลูกค้าได้ตามกฎหมาย ล่าสุด ณ สิ้นเดือน ธ.ค.ปีที่ผ่านมา มีจำนวนเพิ่มขึ้น 248 แห่งทั่วประเทศ นับจากต้นปีถึงสิ้นเดือน ธ.ค.จาก 1,592 แห่ง เพิ่มเป็น 1,840 แห่ง
*หุ้นเด่นวันนี้
- GPSC(ไอร่า)"ซื้อ"เป้า 30.50 บาท ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตเป็น 2,451 MW ในปี 62 จากปัจจุบันที่ 1,315 MW โดยมีโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างจำนวน 602 MW และในระหว่างปี 59-62 จะมีโรงไฟฟ้าทยอยเปิดดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสที่จะเติบโตจากโครงการโรงไฟฟ้าในเมียนมาร์ที่อยู่ระหว่างการเจรจาสัญญา MOA มองได้เปรียบผู้ประกอบการรายอื่น เนื่องจากมีกลุ่ม PTT เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และมีการลงทุนในเมียนมาร์มาเป็นเวลานาน
- CK(เคจีไอ)"ซื้อ"เป้า 36.50 บาท กรมทางหลวงลงนามก่อสร้างมอเตอร์เวย์พัทยา-มาบตาพุด 5 สัญญาจากทั้งหมด 13 สัญญา เริ่มก่อสร้างภายในมี.ค.59 ส่วนอีก 8 สัญญาคาดลงนามปลาย ก.พ.-ต้น มี.ค.ใช้เวลาก่อสร้างตั้งแต่ปี 59-62 ภาพรวมของการประมูลงานจากภาครัฐที่ยังเป็นไปตามคาด คงน้ำหนัก"มากกว่าตลาด"กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดย CK เด่น