นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ. คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) กล่าวว่า ในปี 59 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ระดับ 1,200 ล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ 1,000 ล้านบาท ในปี 58 แต่ปัจจุบันทำได้เกินแล้ว และปี 2560 ที่ระดับ 1,500 ล้านบาท ตามลำดับ โดยบริษัทฯ จะเดินหน้าร่วมประมูลงานต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากงานภาครัฐประมาณ 25% ทั้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ส่วนงานภาคเอกชนอีกประมาณ 55% มาจากการขายหม้อแปลงไฟฟ้าให้กับธุรกิจพลังงานทดแทน โรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม โครงการคอนโดมิเนียม ที่พักอาศัย ห้างสรรพสินค้า และธุรกิจอื่นๆ
ส่วนที่เหลือเป็นส่งออกประมาณ 20% โดยส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย มาเลเซีย อิตาลี่ และสิงคโปร์ รวมทั้งตลาดญี่ปุ่นซึ่งถือเป็นตลาดที่มีความต้องการสูง โดยบริษัทฯ ได้รับการยอมรับจากประเทศญี่ปุ่นในเรื่องของการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าที่ได้คุณภาพและมาตรฐาน และคาดว่าในอนาคตตลาดดังกล่าวมีแนวโน้มความต้องการหม้อแปลงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เสียหายทำให้เสียกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้า ญี่ปุ่นจึงได้มีการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนขึ้น ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตของคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผลการดำเนินงานปี 58 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 1,234.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่มีรายได้ 760.50 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 62.36% ขณะที่มีกำไรสุทธิจำนวน 120.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117.41% เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 55.30 ล้านบาท
"ผลการดำเนินงานปี 58 ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนั้นมาจากการขายหม้อแปลงไฟฟ้าให้กับหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายการลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนทั้งภาครัฐและเอกชน" นายพูลพิพัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจัดสรรเงินกำไรจากการดำเนินงานปี 58 ให้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.32 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 8 เมษายน 59 (Record Date) และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เมษายน 59
“ปี 2558 ถือว่าเป็นปีที่สดใสของ QTC เนื่องจากรายได้และกำไรเติบโตเกินเป้าหมายที่เราตั้งไว้ และยังทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้หายเหนื่อยจากปีก่อนที่เราพยามดำเนินงานอย่างเต็มที่ในทุกๆฝ่าย อย่างไรก็ตามในปี 2559 บริษัทฯ มองว่ายังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพิ่มการส่งออกให้มากขึ้น เข้าประมูลกับภาครัฐก็ยังเดินหน้าต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้เป้าหมายการเติบโตของบริษัทฯ เป็นไปตามเป้าที่วางไว้" นายพูลพิพัฒน์ กล่าว