ปีนี้บริษัทยังคงเน้นการเข้าซื้อและควบรวมกิจการ (M&A) เหมือนปีที่ผ่านมา โดยสามารถลงทุนเองได้ทั้งหมดหรือการร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งเป้าหมายยังคงเป็นธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศ อย่างเช่นในอังกฤษ และยุโรป หรือสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโลก นอกจากนี้ยังมองธุรกิจใหม่ๆ อาทิเช่น ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม คลังสินค้า และโลจิสติกส์
บริษัทวางเป้าหมายชัดเจนโดยเฉพาะตลาดระดับซูเปอร์ ลักชัวรี่ ซึ่งมีแผนเปิดตัวโครงการระดับซูเปอร์ ลักชัวรี่ อย่างน้อย 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการคฤหาสน์หรูหรา บนถนนประดิษฐ์มนูญธรรม (เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา) ซึ่งเป็นทำเลทองสำหรับตลาดเซ็กเมนท์เอบวก บนเนื้อที่ 45 ไร่ คาดว่าราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 150 ล้านบาท
โครงการต่อมาคือ อาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกหัวบนมุมถนนอโศก-เพชรบุรี (สิงห์ คอมเพล็กซ์) ที่จะเป็นอีกหนึ่งสำนักงานที่หรูหรา ทันสมัย และดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ภายในบริเวณประกอบด้วยส่วนค้าปลีก ที่จะมีร้านอาหารชั้นนำ ร้านบริการต่างๆ รวมทั้งธนาคาร เพื่อรองรับความต้องการของพนักงานออฟฟิศ และผู้อาศัยใกล้เคียง โดยส่วนออฟฟิศสูง 44 ชั้น เป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ คาดว่าราคาเช่าจะสูงกว่าตารางเมตรละ 1,000 บาท ซึ่งขณะนี้ทางกลุ่มบุญรอดบริวเวอรี่ได้ทำสัญญาเช่าระยะยาว 6 ชั้นบนสุดไปแล้ว คิดเป็นประมาณร้อยละ 30 และสุดท้ายคือโครงการคอนโดมิเนียมซูเปอร์ ลักชัวรี่ ภายในบริเวณสิงห์ คอมเพล็กเช่นกัน โดยจะเปิดจองราวไตรมาส 4 และราคาขายน่าจะอยู่ที่ตารางเมตรละ 3 แสนบาท