GPSC แจงกำไรปี 58 โตกว่า 20% หลังขายไฟเข้าระบบมากขึ้น, โอกาสลงทุนเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 11, 2016 16:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเติมชัย บุนนาค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) กล่าวว่า ผลการดำเนินของปี 58 บริษัทมีรายได้รวม 22,444 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,906 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 20.6 ซึ่งเป็นผลจากที่บริษัทสามารถขายไฟฟ้าเข้าระบบได้เพิ่มขึ้นจากปี 57 ทั้งจากโรงไฟฟ้าใหม่ที่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ในไตรมาส 4/58 รวมถึงระยะเวลาแผนซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าที่ใช้เวลาน้อยกว่าแผน อีกทั้งบริษัทยังได้รับเงินปันผลจากการเข้าไปถือหุ้นในโรงไฟฟ้าอื่นๆ และได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้น

ปีที่ผ่านมานับเป็นปีที่บริษัทมีประสิทธิภาพทั้งในแง่การบริหารจัดการ โดยเฉพาะโครงการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าศรีราชา สามารถใช้เวลาในการซ่อมบำรุงน้อยกว่าแผนที่วางไว้ ส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้น และค่าซ่อมบำรุงลดลง และบริษัทสามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ ของบริษัท ไออาร์พีซี คลีนพาวเวอร์ จำกัด (IRPC-CP) ซึ่งเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ระยะที่ 1 ในไตรมาสที่ 4/58 โดยเป็นการผลิตไฟฟ้า 45 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 170 ตัน/ชั่วโมง และ ยังได้รับเงินปันผลจากบริษัท ราชบุรี เพาเวอร์ จำกัด (RPCL) ที่ได้เข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 15 รวมทั้งยังได้รับส่วนแบ่งจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้น จากบริษัทร่วม และการร่วมค้า เนื่องจากผลการดำเนินงานที่มีการปรับตัวดีขึ้น

ส่วนกำไรสุทธิของบริษัทในไตรมาส 4/58 มีทั้งสิ้น 335 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/58 ปรับตัวลดลง 231 ล้านบาท ที่มีกำไรสุทธิที่ 566 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากไตรมาส 3/58 มีการรับรู้ เงินปันผลจาก RPCL จำนวน 288 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในส่วนของการดำเนินงานจริง โดยไม่รวมเงินปันผล จะเห็นได้ว่ากำไรสุทธิจากการดำเนินงานปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 20.5 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/58

สำหรับแผนการดำเนินการในปี 59 บริษัทยังมีความเชื่อมั่นว่าการดำเนินธุรกิจยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะมีแผนการขายไฟฟ้าเข้าระบบของ บริษัท ผลิตไฟฟ้า นวนคร จำกัด (NNEG) ที่คาดว่าจะเริ่มขายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในเดือนมิถุนายนปีนี้ รวมทั้งบริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการ IRPC-CP ระยะที่ 1 เต็มปี หลังจากที่เริ่มขายไฟฟ้าเข้าระบบได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 58 นอกจากนี้ยังมีโครงการโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก จำนวน 579 เมกะวัตต์ โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตตามกำลังการผลิตเฉลี่ยร้อยละ 9.4 ไปจนถึงปี 62

ส่วนโครงการในต่างประเทศ บริษัทยังคงดำเนินการต่อเนื่องทั้งในกลุ่มอาเซียนและนอกกลุ่มอาเซียน โดยมีพื้นที่เป้าหมายทั้งใน ลาว เมียนมาร์ อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทมีความพร้อมที่จะขยายการลงทุน โดยยึดหลักเป้าหมายการลงทุนจะต้องเป็นโครงการที่มีประสิทธิภาพและต้องมีผลตอบแทนการลงทุนในระดับที่ดีซึ่งฐานะทางการเงินของบริษัทยังมีความแข็งแกร่ง และมีขีดความสามารถในการลงทุน โดยบริษัทมีเงินที่ได้จากการระดมทุนในการขายเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ราว 10,000 ล้านบาท และสามารถจัดหาจากสถาบันการเงินได้อีก 8,000 ล้านบาท ขณะที่หนี้สินต่อทุนของบริษัทยังอยู่ในระดับต่ำที่ 0.10 เท่า


แท็ก gps  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ