ทั้งนี้ หุ้น BJC ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 35.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท (+0.71%)
บ่ายนี้ คณะกรรมการบมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) อนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งทางตรงและทางอ้อมในบมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) จำนวน 58.56% มูลค่า 1.22 แสนล้านบาท ตามเงื่อนไขที่บริษัท ทีซีซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (TCC) ได้ทำสัญญากับกลุ่มคาสิโน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ BIGC ก่อนหน้านี้
หลังจากนั้น BJC จะเป็นผู้ทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญส่วนที่เหลือสัดส่วน 41.44% ใน BIGC ที่ราคาไม่เกิน 252.88 บาท/หุ้น โดยคาดว่าการทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 มี.ค.59
พร้อมทั้งอนุมัติให้ BJC กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนระยะสั้น ไม่เกิน 12 เดือนในการเข้าซื้อหุ้น BIGC ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดด้วย ในวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 2.2 แสนล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการอาจพิจารณาให้มีการเพิ่มทุนในจำนวนและสัดส่วนที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการใช้เป็นแหล่งเงินทุนเพื่อชำระคืนหนี้กู้ยืมดังกล่าว ซึ่งจะต้องมีการนำเสนอเพื่อขออนุมัติต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ดีการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทางอ้อม (Back Door Listing) เนื่องจากธุรกิจของ BIGC มีลักษณะที่คล้ายคลึงหรือเสริมกันกับธุรกิจของบริษัท และบริษัทไม่มีนโยบายที่จะเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในธุรกิจหลักของบริษัท นอกจากนี้กลุ่มบริษัทภายหลังการได้มาซึ่งหุ้น BIGC จะยังคงมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจาก BIGC มีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่แล้ว ซึ่งการเข้าทำรายการครั้งนี้ จะไม่ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในคณะกรรมการและอำนาจควบคุมของบริษัทหรือผู้ถือหุ้น ที่มีอำนาจควบคุมบริษัทแต่อย่างใด ดังนั้น บริษัทจึงได้รับยกเว้นไม่ต้องยื่นขอให้พิจารณารับหลักทรัพย์ของบริษัทเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯใหม่อีกครั้ง ตามประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์