GLF ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ GL ในประเทศกัมพูชาได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่งจากระบบอีไฟแนนซ์ใหม่นี้ ซึ่งระบบดังกล่าวถูกนำไปใช้ใน สปป.ลาว และพร้อมจะนำไปใช้ในตลาดใหม่อื่นๆ ในอาเซีย โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซียซึ่ง GL ได้จดทะเบียนบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มธนาคาร J TRUST ซึ่งเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ โดยคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตภายในไตรมาส 1/59 และสามารถเริ่มดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 2/59 โดยบริษัทฯตั้งเป้าจะดำเนินธุรกิจเป็นมูลค่าประมาณ 20-30 ล้านเหรียญสหรัฐในปีแรก และจากนั้นจะขยายตัวได้อย่างรวดเร็วและสามารถขยายตัวได้เต็มที่ถึงกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทฯคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 1/59 จะทะลุ 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 6 ซึ่งได้รับผลดีโดยเฉพาะจากธุรกิจในประเทศกัมพูชา ขณะที่ประเทศ สปป.ลาว หลังจากเข้าไปประกอบธุรกิจ 4 เดือน ก็ได้จุดคุ้มทุน และจะเริ่มทำกำไรแล้ว
"กำไรสุทธิของเราปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาถึง 5 ไตรมาส และเราก็เชื่อว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 6 ซึ่งการที่กำไรสุทธิของเราเติบโตมาอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นผลมาจากการขยายตัวค่อนข้างดีในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ และในประเทศไทยก็เริ่มมีการขยายตัวได้แล้ว"นายมิทซึจิ กล่าว