"เชื่อมั่นว่าการรุกตลาดในครั้งนี้ จะสามารถทำให้ A&W ขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของธุรกิจอาหารบริการด่วน หรือ QSR (Quick Service Restaurant) เนื่องจาก A&W เป็นแบรนด์ที่มีศักยภาพ ด้วยคุณภาพ รสชาติอาหาร และรูทเบียร์ อีกทั้งเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคในประเทศมีความคุ้นเคยและให้ความไว้วางใจมาอย่างยาวนานกว่า 35 ปี"
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ เอ็นพีพี ฟู้ด ยังมีแผนจะเข้าลงทุนในธุรกิจอาหารประเภทอื่นเพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณา เนื่องจากมองว่า ตลาดธุรกิจอาหารมีมูลค่ารวมกว่า 1.2 แสนล้านบาท แบ่งเป็น Restaurant chain 60,000 ล้านบาทและ QSR อีก 60,000 ล้าน ซึ่งแบรนด์ที่เลือกมาเป็นแบรนด์ที่มีศักยภาพ ตอบรับกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค
ด้านนายวิชัย เจริญธรรมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า A&W จะทำการขยายสาขาใหม่เพิ่มจำนวน 6 สาขา โดยเน้นการเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งขณะนี้บริษัทได้พื้นที่และเริ่มเข้าไปตกแต่งหน้าร้านแล้ว คาดว่าจะทยอยเปิดได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ขณะที่สาขาเดิมจำนวน 21 สาขา จะมีการปรับปรุงภาพลักษณ์ใหม่ทั้งหมดภายใต้คอนเซปต์ “Old Friend New Look" พร้อมทั้งปรับปรุงรายการอาหารบางส่วนให้มีคุณภาพมากขึ้น มีความหลากหลายรองรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งการปรับภาพลักษณ์ใหม่ของ A&W ในครั้งนี้จะมุ่งเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าทุกเพศทุกวัย
“บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเปิด A&W 100 สาขา ภายใน 5 ปี โดยแบ่งเป็น 3 รูปแบบ คือ 1. สาขา Full Shop ขนาด 200 ตารางเมตร ที่จะเปิดในศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า 2. สาขามาตรฐาน (Standard) หรือ สแตนอะโลน (Stand Alone) ขนาด 80-120 ตร.ม. เปิดในเขตชุมชน เขตธุรกิจ 3. สาขาคีออส (kiosk) ขนาด 20-40 ตร.ม. เน้นพื้นที่ในสถานีบริการน้ำมัน โดยเมนูอาหารจะมีทั้งคาวและหวาน ที่ปรับสูตรอาหารให้เข้ากับคนไทย เจาะกลุ่มลูกค้าหลักที่เป็นกลุ่มลูกค้าที่รู้จักและชื่นชอบรสชาติอาหารของ A&W อยู่แล้ว กับกลุ่มลูกค้าใหม่หรือกลุ่มอายุ 35 ปีลงมา ได้แก่ กลุ่ม Young adult กลุ่ม first jobber และกลุ่มครอบครัว"