ทั้งนี้ บริษัทได้จัดแคมเปญจ่ายเพียง 5,000 บาท อยู่ฟรี 2 ปี และมอบส่วนลดพิเศษ เพื่อกระตุ้นยอดขายในปีนี้ และมั่นใจว่ามาตรการกระตุ้นอสังหาฯของภาครัฐที่ออกมาเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ในส่วนของการลดค่าธรรมเนียมการโอน ค่าจดจำนอง และการให้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯในช่วงไตรมาส 1/59 ได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้ที่คิดจะกู้ซื้อบ้าน ตัดสินใจได้เร็วขึ้น
“โครงการของเราอยู่ในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล ระดับราคาเพียง 2-3 ล้านบาท เป็นเซกเมนท์ที่อยู่ในตลาดมากที่สุด เรามีสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้ซื้อ แบรนด์ของเราอยู่ในระดับกลางๆ พร้อมที่จะก้าวกระโดดในช่วง 3 ปีข้างหน้า"นางอาภา กล่าวในที่สุด
ฝ่ายวิจัย บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ คาดว่าผลประกอบการของ RICHY ในปี 59 จะเริ่มฟื้นตัวจากยอดขายรอโอน(Backlog)ในมือ หลังช่วงเลวร้ายผ่านไป โดย ณ สิ้นปี 58 บริษัทฯ มี Backlog ในมือเท่ากับ 813 ล้านบาท จากโครงการ ริชพาร์ค @ เตาปูนอินเตอร์เชนจ์ , โครงการ เดอะริชวิลล์ ราชพฤกษ์ (ทาวน์โฮม) และโครงการริชพาร์ค @ เจ้าพระยา (เลื่อนรับรู้รายได้จาก 4Q58 เป็น 1Q59) เป็นหลัก โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 458 ล้านบาท และที่เหลือจะทยอยรับรู้ต่อเนื่องไปจนถึงปี 60
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้อีก 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 8 พันล้านบาท เพื่อเพิ่ม Backlog รองรับรายได้ในอนาคต แบ่งเป็น โครงการ เดอะริช นานา 3.7 พันล้านบาท , โครงการ ริชพาร์ค @ ทริปเปิลสเตชั่น 2.7 พันล้านบาท ฝ่ายวิจัยประมาณการกำไรสุทธิปี 59 ไว้ที่ระดับ 160 ล้านบาท เติบโต +80.3% จากประมาณการปี 58
ส่วนปผลประกอบการใน 4Q/58 คาดการณ์กำไรสุทธิที่ระดับ 11.1 ล้านบาท +4.8% QoQ , -94% YoY โดยคาดว่าบริษัทฯจะมีรายได้ราว 115 ล้านบาท +7% QoQ -64% YoY หลังโครงการ ริช พาร์ค @ เจ้าพระยา โอนได้ช้ากว่ากำหนด (เดิมคาด 4Q58) เนื่องจากติดปัญหา EIA และผู้รับเหมาประสบปัญหาค่าแรง ส่งผลให้การรับรู้รายได้ถูกเลื่อนออกไป อย่างไรก็ตาม โครงการที่เหลือยังสามารถโอนได้ตามปกติ
ในส่วนของ Gross Margin คาดว่าจะยังสามารถทำได้ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนที่ระดับ 33% สำหรับค่าใช้จ่าย SG&A ยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง สาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดตัวโครงการใหม่ และการโปรโมทผ่านสื่อโฆษณาต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ในตราสินค้าเพิ่มขึ้น