ภาพรวมการลงทุนในปีนี้สภาพตลาดมีความไม่แน่นอนและมีความผันผวนสูง ซึ่งปัจจัยภายนอกที่เป็นปัจจัยลบเกิดจากเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัวและค่าเงินหยวนมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ตลอดจนราคาน้ำมันคาดว่ามีความผันผวนในกรอบ 20-40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล รวมทั้งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ส่วนปัจจัยบวกคือการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของยุโรป และการลดดอกเบี้ยของญี่ปุ่น ขณะเดียวกันปัจจัยภายในประเทศที่มีผลต่อตลาด อาทิเช่น ภาวะภัยแล้ง การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ
กองทุนทริกเกอร์ฟันด์โดยทั่วไปต้องอาศัยปัจจัยจากภาวะตลาด จะเห็นได้ว่าปีไหนที่ตลาดเป็นขาขึ้นดีๆ ก็มีโอกาสที่ผลตอบแทนเป็นไปตามเงื่อนไข สามารถทริกเกอร์และปิดกองทุนได้ง่าย จึงทำให้มีกองทริกเกอร์เกิดใหม่จำนวนมาก และพอเริ่มมีกองทริกเกอร์ปิดได้ก็จะมีกองอื่นๆ ปิดได้ไล่เลี่ยกันตามมา แต่เมื่อภาวะตลาดกลับตัวเป็นขาลง พบว่าแทบจะไม่มีกองไหนเลยที่มีอัตราผลตอบแทนตามเงื่อนไขทริกเกอร์และสามารถปิดกองได้
สำหรับกองทริกเกอร์ที่เราออกใหม่นี้จะเน้นสร้างผลตอบแทนจากความสามารถในการเลือกหุ้นโดยไม่ขึ้นกับทิศทางตลาด อาทิ ถ้าตลาดลง 10% แต่หุ้นที่เราเลือกลงทุนปรับตัวขึ้นส่วนทางกับตลาด หรือปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาด ผลตอบแทนของกองทุนก็มีโอกาสทริกเกอร์แม้ตลาดมีผลตอบแทนเป็นลบ ดังนั้นการที่กองจะปิดได้ตามเป้าหมายจะไม่ขึ้นอยู่กับทิศทางตลาด แม้ว่าตลาดจะเป็นขาลง แต่ถ้าผู้จัดการกองทุนสามารถเลือกหุ้นได้ถูกตัวที่สามารถเอาชนะตลาดได้ กองทุนก็จะได้ผลตอบแทนเป็นบวกและมีโอกาสปิดกองตามเป้าหมายได้
ทั้งนี้ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ สมาร์ท เทรด 555 ฟันด์ เอ มีเป้าหมายการทริกเกอร์และปิดกองทุนอยู่ที่ 10% โดยประมาณ ภายในระยะเวลา 1 ปี โดยผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนจากการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.50 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 5.00 ของ มูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) และครั้งที่ 2 กรณีหากมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 11.3626 บาทต่อหน่วย เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน และสามารถรับซื้อคืนอัตโนมัติได้ไม่ต่ำกว่า 11.1486 บาทต่อหน่วย
นอกจากนี้ ยังมีนโยบาย cut loss เพื่อหยุดผลขาดทุนไม่ให้เกินร้อยละ 5% และคืนเงินให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนทันที หาก ณ วันทำการใดที่มูลค่าหน่วยลงทุนน้อยกว่าหรือเท่ากับ 9.5000 บาทต่อหน่วย อย่างไรก็ตาม เมื่อครบระยะเวลา 1 ปี หากไม่เกิดเหตุการณ์ข้างต้น บริษัทฯ จะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ