ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปี 59 เพราะไม่ได้มีความกังวลต่อสภาพเศรษฐกิจไทยที่ยังเติบโตแบบชะลอตัว โดยมีความเชื่อมั่นต่อพื้นฐานฐานเศรษฐกิจไทยว่ายังคงแข็งแกร่ง ดังนั้น บริษัทจึงได้ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโตเป็น 4,000 ล้านบาทในปี 60 และเพิ่มเป็น 6,000 ล้านบาทในปี 61
"ปีนี้ถือว่าเป็นปีทองของ ACAP โดยเราคาดจะสามารถเทิร์นอะราวด์ได้ในปีนี้ จากการปล่อยสินเชื่อทั้งรายย่อยและรายใหญ่ ซึ่งรูปแบบการปล่อยสินเชื่อจะต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดจากการดำเนินงาน ขณะที่ปีนี้ก็ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อ 2,000 ล้านบาท ซึ่งใน 3 ปี (59-61) เราอยากให้เพิ่มขึ้นปีละ 2,000 ล้านบาท อย่างต่อเนือง"น.ส.สุกัญญา กล่าว
น.ส.สุกัญญา กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาออกหุ้นกู้วงเงิน 2,000 ล้านบาท อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยราว 6% ซึ่งบริษัทจะมีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติต่อไป โดยวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการปล่อยสินเชื่อซึ่งเป็นกิจการหลักของบริษัท โดยบริษัทตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อปีนี้ที่ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อลูกค้าขนาดเล็กวงเงินไม่เกินรายละ 100 ล้านบาท, สินเชื่อกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางวงเงิน 100-300 ล้านบาท และผู้ประกอบการรายใหญ่วงเงินมากกว่า 300 ล้านบาทขึ้นไปด้วย
สำหรับเงินที่จะนำมาปล่อยสินเชื่อนั้น บางส่วนยังจะมาจากเงินทุนของบริษัทฯเองและเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินต่างประเทศ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทั้งนี้ รูปแบบการปล่อยสินเชื่อจะต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดจากการดำเนินงานด้วย ซึ่งหากบริษัทใดที่มีโครงการน่าสนใจและเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดรายได้และเป็นประโยชน์ บริษัทฯ ก็พร้อมจะสนับสนุนในทุกรูปแบบ
"ภาพรวมธุรกิจในปี 59 การปล่อยสินเชื่อมีการปรับตัวคึกคักมากขึ้น จากการที่ธนาคารพาณิชย์มีมาตรการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ จึงเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการนอนแบงก์อย่างเรา สามารถรุกตลาดการปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการเหล่านี้เพิ่มขึ้น"น.ส.สุกัญญา กล่าว
น.ส.สุกัญญา เปิดเผยอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทย่อย คือ บริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด โดยขณะนี้เจรจากับพันธมิตร 2 ราย ทั้งจากญี่ปุ่นและไต้หวัน ซึ่งจะคัดเลือกเพียง 1 ราย คาดว่าจะลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กันได้ในช่วงกลางปี 59 เบื้องต้นทางพันธมิตรต่างประเทศต้องการที่จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือราว 51%
"การเข้ามาถือหุ้นในบริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด จะช่วยส่งเสริมภาพของ ACAP ให้มีความเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับ ACAP เองก็อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในประเทศ CLMV ในธุรกิจการปล่อยสินเชื่อ เพื่อเข้าไปร่วมลงทุน คาดว่าจะสามารถสรุปได้เร็วๆ นี้"น.ส.สุกัญญา กล่าว
ผลการดำเนินงานปี 58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 บริษัทมีรายได้รวม 154.12 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 25.14 ล้านบาท ซึ่งขาดทุนลดลง 16.25 ล้านบาท หรือคิดเป็น 39.27% เมื่อเทียบกับผลดำเนินงานปี 57 ที่มีผลขาดทุน 41.39 ล้านบาท เป็นผลจากการดำเนินการธุรกิจแบบเชิงรุกด้านการให้บริการสินเชื่อแก้ผู้ประกอบการรายย่อย ระดับกลาง และรายใหญ่มากขึ้น
"ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/58 บริษัทฯมีรายได้ 49.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.78 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 14.34 ล้านบาท จากไตรมาส 4 ของปีที่แล้วที่ขาดทุน 21.25 ล้านบาท คิดเป็น 167.49 % เนื่องจากบริษัทมีการให้บริการด้านการปล่อยสินเชื่อในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น และได้มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินงานให้สอดรับกับการขยายตัวของธุรกิจปล่อยสินเชื่อ และความต้องการเงินลงทุนของผู้ประกอบการมากขึ้น"น.ส.สุกัญญา กล่าว