สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 58/59 (ต.ค.-ธ.ค.58) บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 2,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% และมีกำไรสุทธิรวม 354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 140% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้รายได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี (เม.ย.-ธ.ค.58) EPG มีรายได้รวมทั้งสิ้น 6,604 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% และมีกำไรสุทธิรวมถึง 1,066 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 137% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ ภายใต้แบรนด์ AEROKLAS มียอดขายเพิ่มขึ้น 79% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากธุรกิจหลัก ทั้งจาก bed liner, canopy, deck cover และ sidestep และผลจากการขยายธุรกิจใหม่ในประเทศออสเตรเลีย (TJM) ด้านธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ AEROFLEX มียอดขายเพิ่มขึ้น 14% ทั้งในและต่างประเทศ ในขณะที่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ EPP มียอดขายเพิ่มขึ้น 15%
"จากสถิติจะเห็นได้ว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 ของทุกปี ยอดขายของ EPG จะค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับไตรมาสอื่นๆ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากเป็นช่วงโลซีซั่น แต่อย่างไรก็ตามในปีนี้ EPG ยังคงรักษายอดการขายได้ถึง 2,261 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ช่วง 9 เดือนแรก EPG มียอดขายถึง 6,604 ล้านบาท เนื่องจากสินค้าทั้ง 3 กลุ่มหลักของ EPG มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ AEROKLAS ซึ่งเติบโตอย่างเห็นได้ชัดในช่วงไตรมาสที่ 3
ดังนั้น ทำให้มั่นใจว่าทิศทางการเติบโตของ EPG ในปีนี้ (เม.ย.58 - มี.ค.59) จะเป็นไปตามเป้าหมาย ที่ 25-30% หรือประมาณ 8,500-9,000 ล้านบาท เนื่องจากกลุ่มสินค้าเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น มีคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4 (ม.ค.-มี.ค.59)"นายภวัฒน์ กล่าว