"5 ประเด็นนี้ขอให้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ และจะได้ข้อยุติภายในวันที่ 29 ก.พ.หรือไม่เกินวันที่ 5 มี.ค. ...ถ้าบางประเด็นไม่จบ ก็ต้องรอเสนอรัฐบาล"นายฐากร กล่าว
สำหรับ 5 ประเด็นดังกล่าว ได้แก่ 1) การเลื่อนจ่ายเงินค่าใบอนุญาต งวดที่ 3 ที่กำหนดจ่าย พ.ค.59. ซึ่งต้องพิจารณาว่าจะทำได้หรือไม่ 2) การขยายระยะเวลาใบอนุญาต 3) การคืนใบอนุญาต ซึ่งจากการหารือของคณะทำงานมีมติเบื้องต้นให้คืนใบอนุญาตได้ แต่ยังกังวลเรื่องความเสียหายหากคืนแล้วไม่ต้องจ่ายค่าใบอนุญาตครบทั้งหมด และ 4) การวัดเรทติ้งโดยสมาคมต่าง ๆ ที่เกียวข้องที่จะใช้เงินกองทุนของ กสทช และ 5) กฎมัสต์แคร์รี่
ทั้งนี้ คณะทำงานแก้ไขปัญหาทีวีดิจิตอลที่มีตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด และตัวแทนจากกระทรวงการคลัง จะมีการหารือกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้าเพื่อจะได้ข้อสรุปการแก้ไขปัญหานำเสนอต่อคณะกรรมการ กสทช.
เลขาธิการ กสทช.คาดว่า ประเด็นกฎมัสต์แคร์รี่ และการวัดเรทติ้ง คาดว่าทางสำนักงาน กสทช. จะดำเนินการเองได้ และจะใช้งบของสำนักงาน กสทช. ส่วนอีก 3 ประเด็นก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ได้
ส่วน 5 ประเด็นที่ได้ข้อยุติแล้วนั้น ทางสำนักงาน กสทช.สามารถดำเนินการได้ทันที คือ 1.การแจกคูปองเพิ่มเติมอีก 11.6 ล้านใบในกรอบงบประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท ให้กับ 11 ล้านครัวเรือน คาดว่าจะมีผู้มาแลกคูปอง 60%. 2.การเรียงช่องเหมือนกันทุกแพลตฟอร์ม 3.การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ทีวีดิจิตอลเพิ่มขึ้น ภายใต้วงเงินกว่า 16 ล้านบาท 4.ค่าเช่าโครงข่าย (MUX) ทางสำนักงาน กสทช.จะเสนอคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.)พิจารณาปรับลดอัตราค่าเช่าโครงข่าย และ 5.การนำเงินส่งเข้ากองทุน USO ที่เปลี่ยนจากเดิมเก็บในอัตรา 2% ต่อปี เป็น 0.1-1.00% และจะไม่เก็บย้อนหลัง