โดยบริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ราว 1,700 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงโรงกลั่นยางมะตอย โรงงาน และซื้อรถและเรือขนส่งยางมะตอยเข้ามาเพิ่ม
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/58 มีรายได้รวม 9,096 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 10,973 ล้านบาท เนื่องจากราคาขายยางมะตอยที่ต่ำลง ขณะที่มีปริมาณขายสูงถึง 6 แสนตัน สูงกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/58 และไตรมาส 4/57 หลังได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการยางมะตอยที่แข็งแกร่ง
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 58 มีรายได้รวม 37,131 ล้านบาท เทียบกับปี 2557 มีรายได้รวม 45,727 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 5,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,879 ล้านบาท หรือ 323% เมื่อเทียบกับปี 2557 มีกำไรสุทธิ 1,200 ล้านบาท และบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานสูงถึง 6,449 ล้านบาท
จากผลประกอบการดังกล่าวทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ณ สิ้นปี 58 บริษัทมีภาระหนี้สินที่ลดลงกว่า 4,574 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้ทำการชำระหนี้ระยะสั้นทั้งหมดและระยะยาวในบางส่วนและทำให้อัตราหนี้สินต่อทุนลดจาก 1.47 เท่าในปี 57 เหลือเพียง 0.6 เท่า ณ สิ้นปี 58
"ผลการดำเนินงานในปี 58 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณการขายยางมะตอยที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมียอดขายยางมะตอยรวมที่ 2.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อนที่มีปริมาณการขายยางมะตอยอยู่ที่ 2 ล้านตัน ซึ่งทำให้กำไรของบริษัททำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับจากที่มีการจัดตั้งบริษัท"นายชัยวัฒน์ กล่าว