ในเรื่องนี้ ทสภ.ขอชี้แจงว่า ที่ผ่านมา ทอท.ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด โดยได้มีการจ้างผู้เชี่ยวชาญมาศึกษาหาสาเหตุและเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหา พบว่าสาเหตุความชำรุดเกิดจาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ปัจจัยสภาพของระดับน้ำใต้ดินในพื้นที่ ทสภ. ซึ่งมีระดับน้ำที่สูง ส่วนปัจจัยที่ 2 มีสาเหตุมาจากการอ่อนตัวของวัสดุแอสฟัลต์ที่ใช้เป็นพื้นผิวทางขับโดยเฉพาะจุดที่มีการหักเลี้ยวของล้ออากาศยานหรือจุดที่อากาศยานจอดนิ่งหรือเคลื่อนที่ช้า ทำให้พื้นผิวบริเวณดังกล่าวมีการชำรุดเสียหาย
จากผลการศึกษาดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญได้เสนอแนะให้ ทสภ.ดำเนินการเปลี่ยนพื้นผิวทางขับเป็นวัสดุคอนกรีต ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินการ ทสภ. ได้มีมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งมาตรการซ่อมแซมปรับปรุงพื้นผิวทางขับและลานจอดอากาศยานออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ มาตรการระยะสั้น โดย ทสภ.ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพพื้นผิวทางวิ่ง ทางขับและลานจอดอากาศยานเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย หากตรวจพบพื้นที่ที่ชำรุดเสียหายจะดำเนินการปิดพื้นที่และเร่งดำเนินการซ่อมแซมพื้นผิวให้สามารถกลับมาใช้งานได้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการให้บริการแก่ผู้โดยสารและอากาศยาน
สำหรับมาตรการระยะกลาง ทสภ.ได้มีการว่าจ้างบริษัทผู้รับจ้างเข้ามาดำเนินการก่อสร้างซ่อมแซมพื้นผิวโดยเปลี่ยนชั้นวัสดุแอสฟัลต์เดิมให้เป็นวัสดุแอสฟัลต์ที่มีคุณภาพที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2552 โดยแบ่งการดำเนินการซ่อมแซมออกเป็นระยะๆ เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อการให้บริการน้อยที่สุด
สำหรับมาตรการสุดท้าย ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาว ตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ ทสภ.ได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาสภาพของระดับน้ำใต้ดินในพื้นที่ ทสภ. ซึ่งมีระดับน้ำที่สูง ด้วยการเร่งรัดติดตั้งระบบระบายน้ำใต้ดิน (subsurface drainage) เพื่อลดระดับน้ำใต้ดินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2557 โดยมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 45 ของพื้นที่เป้าหมาย ทั้งนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2559
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ทอท.ในการประชุมเมื่อ ก.ค. 57 ยังได้อนุมัติให้ ทสภ.ดำเนินการโครงการก่อสร้างซ่อมแซมพื้นผิวทางอากาศยานด้วยวัสดุปอร์ตแลนด์ซีเมนต์คอนกรีต เพื่อแก้ไขปัญหาความเสียหายของพื้นผิวทางอากาศยานของ ทสภ.อย่างถาวร โดยมีพื้นที่ดำเนินการประมาณ 700,000 ตารางเมตร โดย ทสภ.ได้มีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อสำรวจและออกแบบแล้วเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2559 และคาดว่าจะเริ่มงานก่อสร้างซ่อมแซมพื้นผิวได้ในต้นปี 2560 โดยใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 960 วัน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 โดยมีวงเงินงบประมาณเป็นเงิน 2,580 ล้านบาท
นอกจากนี้ ทสภ.ได้มีแผนเร่งรัดการเปลี่ยนพื้นผิวทางขับจากวัสดุแอสฟัลต์เป็นวัสดุปอร์ตแลนด์ซีเมนต์คอนกรีต ในพื้นที่สำคัญบริเวณทางขับ (Taxiway) B1 เป็นการเร่งด่วน เนื่องจากเป็นพื้นที่หลักในการรองรับอากาศยานจอดรอก่อนเข้าทางวิ่ง โดย ทสภ.คาดว่าจะสามารถหาผู้รับจ้างมาดำเนินการได้ภายในเดือนมีนาคม 2559 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณเดือนสิงหาคม 2559 นี้
จากการดำเนินการตามแผนงานดังกล่าว ทสภ. เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มศักยภาพในการรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยของท่าอากาศยาน