บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์โดยคาดว่า บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) จะมีผลประกอบการในไตรมาส 4/58 ลดลงเมื่อเทียบกับสามไตรมาสแรกของปี 58 โดยคาดว่ากำไรสุทธิที่ 765 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากงวดปีก่อน แต่ลดลง 9% จากไตรมาสก่อน หลังจากได้คุยกับผู้บริหารเกี่ยวกับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/58 เชื่อว่าค่าใช้จ่ายของบริษัททั้งโบนัส และซ่อมบำรุงซอฟท์แวร์จะเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ ทำให้ปรับประมาณการกำไรสุทธิลดลง 2.9% เหลือ 3.43 พันล้านบาท จากประมาณการเดิม 3.53 พันล้านบาท
สำหรับระยะต่อไปคาดกำไรของ BH จะเริ่มเข้าสู่ช่วงที่แข็งแกร่งตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1/59 มีสาเหตุสำคัญมาจากจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่เป็นโรคร้ายแรงเข้ามารักษาตัวมากขึ้น, มีการปรับอัตราค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นเมื่อต้นปีนี้ และการที่แบรนด์ของโรงพยาบาลเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
อย่างไรก็ตาม ในปี 59 ได้ปรับประมาณการกำไรเพิ่ม 4.6% เป็น 4.08 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.9% จากปี 58 เพื่อสะท้อนถึงมาร์จิ้นของปี 59 ที่สูงกว่าที่คาดไว้เดิม สำหรับในระยะยาวคิดว่าผู้ป่วยต่างชาติของบริษัทจะยังคงเติบโตต่อเนื่องจาก 65% ในปัจจุบัน คิดว่าจะยังคงเป็นกลยุทธ์หลักของ BH ในการเพิ่มความสามารถการทำกำไรให้สูงขึ้นอีก นอกจากนี้ ยังคิดว่าประเด็นนี้เป็นความได้เปรียบของบริษัท ซึ่งจะทำให้ได้อานิสงส์เพิ่มขึ้นจากการเริ่มเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ปีนี้ด้วย
ปัจจุบันยังคงแนะนำให้ซื้อ BH แต่อย่างไรก็ตามได้ปรับราคาเป้าหมายที่เหมาะสมให้สอดคล้องกับค่าเฉลี่ย PE ในข่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่ระดับ 45 เท่า ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่เท่ากับ 252 บาท จากเดิมที่ 267 บาท